สงครามโลกครั้งที่หนึ่งถูกเรียกว่ามหาสงครามอย่างมีที่มาที่ไป เพราะนี่ไม่ใช่แค่สงครามที่ใหญ่ที่สุดเท่าที่เคยมีมาของโลกในสมัยนั้น แต่มันยังเป็นสงครามที่ส่งคนจำนวนมากไปสู่ความตายและความบ้าคลั่งอีกด้วย
นั่นเพราะนี่เป็นสงคราม ที่ทำให้มนุษย์รู้จักกับอาการที่ชื่อว่า “Shell Shock” อาการที่มักจะเกิดขึ้นกับทหารที่เห็นภาพความโหดร้ายของสงครามอย่างต่อเนื่อง
“ดวงตาแห่งความบ้าคลั่ง” รูปภาพเกี่ยวกับอาการ Shell Shock ที่มีชื่อเสียงมากที่สุด
อาการ Shell Shock นั้นสามารถแบบตรงๆ ได้ว่า “อาการช็อกจากกระสุน” ซึ่งว่ากันว่าเป็นชื่อที่ทหารในสงครามตั้งให้เอง เนื่องจากผู้ป่วยส่วนใหญ่จะมีอาการจากการหวาดกลัว “กระสุนปืนใหญ่” ในสมัยนั้น
นี่เป็นกลุ่มอาการที่ทหารสะสมความเครียดและความกลัวจนสติแตก และอาจมีอาการได้หลากหลาย ตั้งแต่ตัวสั่น นอนฝันร้าย ทำอะไรไม่ถูก พูดไม่ได้ เรื่อยไปยันการไร้สติโดยสิ้นเชิงคล้ายหุ่นไร้วิญญาณ
และอาจจะมีผลยาวนานไปจนจบสงครามหรือตลอดชีวิตได้เลย
อาการ Shell Shock นั้นมักถูกนำไปรวมกับอาการ PTSD (Posttraumatic stress disorder) หรืออาการความเครียดหลังจากเหตุการณ์สะเทือนใจอยู่บ่อยๆ เนื่องจากทั้งคู่เป็นอาการทางจิตที่มีความใกล้เคียงกันค่อนข้างมาก
อย่างไรก็ตามในบรรดาทหารและคนอีกหลายๆ กลุ่มก็มักจจะมองว่า อาการทั้งสองไม่เหมือนกันเสียทีเดียว
เพราะอาการ Shell Shock มักถูกมองว่าเป็นอาการที่เกิดขึ้นทันทีทันใด บ่อยครั้งก็เกิดในระหว่างเหตุการณ์สะเทือนใจเลย ในขณะที่ PTSD จะค่อยๆ เกิดหลังเหตุการณ์สะเทือนใจอีกที ว่ากันง่ายๆ จะบอกว่า Shell Shock ทำให้เกิด PTSD ก็อาจจะไม่ผิดนัก
ในช่วงแรกๆ ที่อาการนี้ยังไม่เป็นที่รู้จักนัก Shell Shock มักถูกมองว่าเป็นสัญลักษณ์ของความอ่อนแอ จนถึงขั้นที่ว่าในช่วงหนึ่งกองทัพอังกฤษ เคยตัดสินโทษจำคุกหรือแม้แต่ประหารชีวิตทหารที่มีอาการเลยด้วย
น่าเสียดายที่เราไม่มีหลักฐานชัดเจนนักว่ามีทหารจำนวนเท่าไหร่ที่ถูกตัดสินว่าขี้ขลาดหรือหนีสงครามจากอาการ Shell Shock
อย่างไรก็ตามต่อมาที่อาการนี้เป็นที่รู้จักมากขึ้น รัฐบาลอังกฤษได้ออกคำสั่งให้อภัยทหารทั้งหมดที่มีอาการนี้ พร้อมทั้งระบุว่าแท้จริงแล้ว Shell Shock ไม่ได้เกิดจากความอ่อนแออย่างที่คิด
และการออกมายอมรับในครั้งนี้ก็ทำให้ Shell Shock กลายเป็นหนึ่งในความรู้คู่กองทัพไปในเวลาหลังจากนั้น
ที่มา rarehistoricalphotos, apa