เชื่อว่าคงมีผู้ชายจำนวนไม่น้อยเลยที่เคยได้ยินเรื่องราวของอาการที่ชื่อว่า “จู๋หัก” กันมาบ้าง นี่คืออาการฉีกขาดของเนื้อเยื่อหุ้มรอบแกนในอวัยวะเพศชาย ซึ่งตามปกติมักเกิดขึ้นในระหว่างการมีเพศสัมพันธ์ที่มีการกดทับมากๆ
อย่างไรก็ตามสำหรับที่ประเทศอิหร่าน เหตุผลที่ชายหนุ่มส่วนใหญ่เกิดอาการจู๋หักกลับดูจะต่างจากประเทศอื่นพอสมควรเลย นั่นเพราะจากงานวิจัยที่ได้รับการตีพิมพ์ในวารสาร Journal of Urology
ดูเหมือนว่าชายที่นี่ โดยมากแล้วจะมีอาการจู๋หักกันเพราะไป “หักจู๋ตัวเอง” ในลักษณะคล้ายกับที่เรา “หักข้อนิ้ว” เสียอย่างนั้น
เรื่องราวแปลกๆ นี้กลายเป็นที่รู้จักกันจากการเก็บข้อมูลในประเทศของแพทย์ที่ทำงานในจังหวัดเคอร์มันชาห์ โดยเขาพบว่าในช่วงปี 1990-1999 ในจังหวัดนี้ได้มีชายหนุ่มต้องเข้ารักษาตัวจากอาการ “หักจู๋” มากถึง 172 ครั้ง
อย่างไรก็ตามเรื่องที่น่าแปลกใจคือในจำนวนผู้ป่วยนี้มีเพียง 8% (14 ราย) เท่านั้นที่เกิดอาการจู๋หักจากการมีเซ็กซ์
กลับกันกว่า 69% ของผู้ป่วย (119 ราย) ระบุว่าพวกเขาเกิดอาการจู๋หักจากการทำ “ตะคานดัน” (Taghaandan มาจากภาษาเคิร์ดที่แปลว่า “คลิก”) ซึ่งเป็นการงอส่วนบนขององคชาตที่แข็งตัวในขณะที่จับส่วนล่างของก้านให้เข้าที่ จนได้ยินเสียงคลิก คล้ายการหักนิ้วแทน
การทำตะคานดันนั้น ถูกรายงานว่าเป็นการกระทำที่มักเกิดขึ้นในทางตะวันออกกลางและเอเชียกลางเป็นหลัก
และคาดกันว่าผู้กระทำตะคานดันนั้น โดยมากแล้วทำมันลงไปเนื่องจากความพยายามระงับการแข็งตัวของอวัยวะเพศหรือความต้องการทางเพศ ไม่ว่าจะจากความเชื่อส่วนตัว หรือไม่ก็จากการขาดการศึกษาเรื่องเพศศึกษาที่ดีอีกที
นับว่าเป็นเรื่องน่าเสียดายมากที่ในงานวิจัยชิ้นนี้ทีมแพทย์แค่เพียงแต่รายงานว่าอาการจู๋หักในพื้นที่เกิดขึ้นเพราะเหตุผลใดเท่านั้น และไม่ได้มีการออกเตือน หรือห้ามการหักน้องชายตัวเองของคนในพื้นที่แต่อย่างไร
ถึงอย่างนั้นก็ตามจากตัวเลขของคนที่ต้องเข้าโรงพยาบาลที่สูงขนาดนี้ มันก็อาจจะไม่ใช่เรื่องเกินเลยเท่าไหร่นักที่จะบอกว่าการทำ “ตะคานดัน” นั้นอาจนำมาซึ่งความเสี่ยงได้ และไม่ควรทำตามอย่างยิ่ง
ไม่เช่นนั้นคุณอาจจะได้พบเหตุการณ์ที่เปรียบเหมือนฝันร้ายที่น่ากลัวที่สุดของเหล่าชายหนุ่มเลยก็ได้
ที่มา iflscience, melmagazine และ Journal of Urology