ย้อนกลับไปในวันนี้ (18 กรกฎาคม) เมื่อราวๆ 1957 ปีก่อน (ปี ค.ศ. 64) ที่ กรุงโรมได้เกิดเหตุการณ์โศกนาฏกรรมครั้งใหญ่ขึ้น
เมื่อจู่ๆ ก็เกิดเปลวเพลิงลุกไหม้ขึ้นจากสลัมทางตอนใต้ของเนินเขาพาเลติเน ก่อนลุกไหม้เผาทำลายเมืองอย่างไร้การควบคุมเป็นเวลาร่วม 5 วัน สร้างความเสียหายต่อทั้งชีวิตและทรัพย์สินของผู้คนนับพันคน
ปัญหาคือในช่วงเวลาเช่นนี้เองในกลับมีการรายงานว่า “เนโร” ซึ่งเป็นจักรพรรดิของโรมในเวลานั้น กลับกำลังนั่งดีดพิณเฝ้าดูเมืองจากสถานที่ปลอดภัยเสียอย่างนั้น
เรื่องราวในจุดนี้ทำให้ในเวลาต่อมาเรามีทฤษฎีมากมายออกมาบอกว่ามันอาจมีความเป็นไปได้ที่จักรพรรดิเนโรจะเป็นผู้เผาเมืองเสียเอง เนื่องจากเขานั้นมองว่า “เมืองมันไม่สวย”
อย่างไรก็ตามในช่วงหลายปีที่ผ่านมาเรื่องราวในจุดนี้กลับเริ่มมีข้อโต้แย้งมากขึ้นเรื่อยๆ
หนึ่งในข้อโต้แย้งที่น่าสนใจคือเนโรนั้น จริงๆ แล้วอาจอยู่ห่างออกไปจากเมืองถึงเกือบ 60 กิโลเมตร จึงไม่น่าจะนั่งเล่นดนตรีดูไฟ หรือเป็นคนเผาเมืองเองได้อย่างที่ถูกกล่าวหา กลับกันเขายังเป็นผู้ให้ชาวเมืองเข้ามาหลบภัยในวังด้วยซ้ำ
ถึงอย่างนั้นก็ตามมันก็ยังคงมีหลักฐานจากอีกฝั่งเช่นกัน ที่ยืนยันว่าเนโรมีการใช้ประโยชน์จากไฟในครั้งนี้ จับชาวคริสเตียนนับร้อยมาทรมาน ประหาร และโทษว่าพวกเขาเป็นคนเผาเมือง
แถมด้วยความที่ประวัติอื่นๆ ของจักรพรรดิรายนี้ก็ไม่ได้ดีเท่าไหร่อยู่แล้วด้วย มันจึงอาจไม่ใช่เรื่องแปลกเลยที่อย่างน้อยๆ เนโรจะดีใจกับเหตุเพลิงไหม้ในครั้งนี้
ดังนั้นแล้วในท้ายที่สุดความจริงของจักรพรรดิเนโรและเปลวเพลิงแห่งในเวลานั้น ในปัจจุบันจึงยังคงเป็นเรื่องราวที่เต็มไปด้วยปริศนา ซึ่งรอคอยให้มีคนมาไขมันไม่เปลี่ยนแปลง
ที่มา
www.history.com/this-day-in-history/neros-rome-burns
www.britannica.com/story/did-nero-really-fiddle-as-rome-burned
www.washingtonpost.com/outlook/what-was-nero-really-doing-while-rome-burned/2020/11/19/4118bd20-029d-11eb-897d-3a6201d6643f_story.html