เมื่อเรากล่าวถึงตัวละครผู้หญิงใน ในตำนานพื้นบ้านของทางยุโรปโบราณ บ่อยครั้งพวกเธอมักจะถูกแบ่งออกได้ใหญ่ๆ เป็นสองประเภท หนึ่งคือตัวละครอ่อนแอ หรือผู้ที่มักถูกเหล่าปีศาจใช้งาน (อย่างอีวาที่โดนงูหลอก)
และอีกรูปแบบหนึ่งคือเหล่าหญิงแกร่ง ผู้ที่สามารถล้มล้างได้แม้กระทั่งซาตาน ซึ่งในวันนี้เราจะพูดถึงผู้หญิงแบบหลังกัน
นั่นเพราะด้วยเหตุผลบางอย่างตามตำนานพื้นบ้านในช่วงศตวรรษที่ 17 มักจะมีการปลูกฝังความเชื่อว่าปีศาจนั้นหวาดกลัวผู้หญิง โดยเฉพาะส่วน “อวัยวะที่แสดงความเป็นเพศหญิง” และมันก็ทำให้ในสมัยนั้น มีภาพศิลปะที่แลดูเข้าใจยากปรากฏอยู่ประปรายเลย
นี่คือภาพประกอบจากนิทานเรื่อง The Devil of Pope-Fig Island โดย Jean de La Fontaine ซึ่งมีเนื้อเรื่องคร่าวๆ ว่า ปีศาจกับชาวนาท้าประลองกันว่าใครจะขุดดินเป็นร่องได้ดีกว่ากัน
โดยในเรื่องชาวนาสามารถชนะปีศาจได้ จากการที่ภรรยาของชาวนาที่ตัดสินใจเปิดของลับให้ปีศาจดู พลางแกล้งบ่นว่าสามีทดลองกรงเล็บกับเธอจนทำให้หว่างขาของเธอเป็นแผลแยก
ทำให้ปีศาจที่ไม่คุ้นเคยกับร่างกายผู้หญิงเห็นดังนั้นก็หวาดกลัวในพลังของชาวนามาก เพราะคิดว่าของลับของผู้หญิงคือบาดแผลรุนแรง จนตัดสินใจหนีไปจากการแข่ง
นิทานด้านบนนี้ไม่ใช่นิทานเพียงเรื่องเดียวที่แสดงให้เห็นถึงความหวาดกลัวต่ออวัยวะเพศหญิงของปีศาจแต่อย่างไร กลับกันมันยังมีภาพนิทานในรูปแบบนี้ปรากฏมาให้เห็นในประวัติศาสตร์อีกหลายครั้ง
ซึ่งทำให้ผู้เชี่ยวชาญด้านประวัติศาสตร์ศิลปะอย่างคุณ Magdalena Łanuszka จากมหาวิทยาลัย Jagiellonian ในโปแลนด์คาดว่าการที่ปีศาจหวาดกลัวอวัยวะเพศหญิง
น่าจะมีความเกี่ยวข้องกับความเชื่อในสมัยโบราณ หรือเป็นการแฝงคำสอนไว้ก็เป็นได้
นั่นเพราะการที่สตรีที่สามารถให้กำเนิดลูกได้นั้น เป็นไปได้ว่าจะเคยถูกมองว่าเป็นสัญลักษณ์แห่งชีวิตมาก่อน ซึ่งในทางความเชื่ออาจเปรียบเหมือนได้รับพรที่จะขับไล่สิ่งชั่วร้ายออกไป
ส่วนในด้านการแอบแฝงคำสอนเอง เราจะสามารถเห็นได้ชัดในบทกลอนยุค 1800 อย่าง The Hairy Prospect or the Devil in a Fright ซึ่งปีศาจกลัวดูเหมือนว่าจะเป็นขนในที่ลับของผู้หญิงมากๆ
โดยในกลอนบทนี้ ปีศาจได้เข้ามาหาผู้หญิง แต่เธอกลับเปิดกระโปรงโชว์ของลับที่มีขนยุบยับจนปีศาจหวาดกลัวและหนีไป ซึ่งมีความเป็นไปได้ว่านี่จะเป็นการสอนคนในสมัยนั้นอ้อมๆ ให้โกนขนซะ
เพราะมันเป็นสิ่งที่น่าขยะแขยงจนปีศาจยังกลัว อย่างน้อยๆ ก็ตามความเชื่อในสมัยนั้น
แต่แม้ว่าเรื่องราวการไล่ผีไล่ปีศาจแบบนี้จะปรากฏขึ้นมาในประวัติศาสตร์อยู่บ่อยๆ ก็ตาม มันก็มักจะอยู่ในรูปแบบนิทานหรือบทกลอนซึ่งเป็นผลงานการประพันธ์ขึ้นมาทั้งสิ้น ไม่ได้มีหลักฐานใดๆ ที่บอกว่าของลับของผู้หญิงใช้ไล่ปีศาจได้จริงๆ แต่อย่างใด
ดังนั้นเวลาคิดจะโชว์ของลับไล่ผี ก็ขอให้คิดกันให้ดีๆ ก่อนนะ
เดี๋ยวผีที่ไล่ จะกลายเป็นผีเลียหัวไป
ที่มา posztukiwania, the-pool, adelaide