ย้อนกลับไปเล็กน้อยในช่วงปี 1985 ที่สหรัฐอเมริกาได้เกิดเรื่องชวนสยองขวัญขึ้น เมื่อประชาชนในประเทศร่วม 142 คนจู่ๆ ก็ล้มป่วยลง และในจำนวนนี้ 52 คนก็มีอาการรุนแรงถึงขั้นเสียชีวิตเลยด้วย
นี่ถือเป็นสถานการณ์ที่น่าเศร้ามาก เพราะผู้ป่วยในเหตุการณ์ครั้งนี้ ราวๆ 65% เป็นผู้หญิงที่กำลังตั้งท้อง ในบรรดาผู้เสียชีวิตข้างต้น 29 รายจึงเป็นทารกในครรภ์ (19 ราย) และทารกแรกเกิด (10 ราย) อีก
เมื่อทำการตรวจสอบเรื่องราวที่เกิดขึ้นทางเจ้าหน้าที่ก็พบว่า
เหยื่อทั้งหมดของเหตุการณ์นี้ล้วนแต่มีอาการของเชื้อลิสทีเรีย (Listeria monocytogenes) แบคทีเรียที่มักเข้าไปในร่างกายคนผ่านการทานอาหารที่ปนเปื้อน ทำให้เกิดอาการคล้ายไข้หวัดใหญ่หรือ อาหารเป็นพิษรุนแรงทั้งสิ้น
และในกรณีนี้ผู้ป่วยแทบทุกคนก็ทานชีสสไตล์เม็กซิกันของ บริษัท Jalisco ในแคลิฟอร์เนียเสียด้วย
แน่นอนว่าด้วยหลักฐานเช่นนี้ต่อมา บริษัท Jalisco ก็ถูกเจ้าหน้าที่เข้าตรวจสอบอย่างละเอียด โดยพวกเขาพบว่ามันมีความเป็นไปได้สูงที่บริษัทดังกล่าวจะแอบผสมนมที่ไม่ผ่านการพาสเจอร์ไรส์ในสินค้า
และเมื่อนำชีสบางส่วนของบริษัทไปตรวจสอบเจ้าหน้าที่ก็พบว่าในชีสอย่างน้อยๆ 4 ชิ้นของ Jalisco มีเชื้อลิสทีเรียอยู่ในปริมาณสูงจริงๆ แม้ชีสที่นำมาทดลองจะถูกผลิตในช่วงเวลาต่างๆ กันก็ตาม
ดังนั้นเจ้าหน้าที่จึงตัดสินว่า บริษัท Jalisco นั้นละเลยในการรักษาความปลอดภัยของสินค้าเป็นเวลานานจริงๆ
ส่งผลให้ต่อมา เจ้าของบริษัทและหัวหน้าผู้ผลิตชีส ต้องจ่ายค่าปรับรวม 48,000 ดอลลาร์ (1.6 ล้านบาท) และต้องโทษจำคุก 30 และ 60 วัน ในขณะที่ตัวบริษัท Jalisco เองก็ต้องปิดตัวไปแบบถาวรกับบทเรียนราคาแพงเกี่ยวกับการป้องกันอาหารเป็นพิษเลย
ที่มา foodsafetynews และ thedailymeal
ติดตาม CatDumb ได้ในช่องทางอื่นๆ
Website: www.CatDumb.com
Youtube: www.youtube.com/c/CatDumbTV-Youtube
Instagram: www.instagram.com/catdumbnews/
TikTok: www.tiktok.com/@CATDUMBtv