ย้อนกลับไปในยุค 90 ในหลายๆ ประเทศ (รวมถึงประเทศไทยด้วย) การรักษาชื่อ “สัมผัสรักษา” (Therapeutic Touch) จะถือเป็นอะไรที่โด่งดังมาก
โดยกระบวนการนี้ แม้จะถูกตั้งข้อสงสัยมาเป็นเวลานานโดยนักวิทยาศาสตร์ แต่ด้วย “ความเป็นมาที่ยาวนาน” ของการสัมผัสรักษา ในเวลานั้นจึงไม่มีใครที่สามารถ “หักล้าง” การรักษานี้ได้
แต่แล้วในปี 1996 เรื่องราวของสัมผัสรักษาก็ต้องผลกับความเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่จนได้ เมื่อการรักษาของพวกเขาถูกท้าทายโดยตรงในทางวิทยาศาสตร์ และผู้ที่ทำมันก็เป็นเพียงเด็กอายุ 9 ขวบชื่อ Emily Rosa ด้วย!!
Emily Rosa นั้นได้รับสืบทอดแนวคิดไม่เชื่อในการสัมผัสรักษามาจากพ่อแม่ของเธอ ซึ่งทำให้ในตอนที่โรงเรียนของเธอจัดมหกรรมวิทยาศาสตร์ ป.4 เด็กหญิงจึงตัดสินใจติดต่อ “หมอ” ผู้รักษาคนไข้ด้วยการสัมผัสรักษา 21 คนมาทำการทดลองเสียเลย
เราคงต้องอธิบายไว้ตรงนี้ก่อนว่า แม้การรักษาจะชื่อสัมผัสรักษาก็ตาม ในความเป็นจริงแล้วนี่ก็ไม่ใช่การรักษาผู้ป่วยด้วยการสัมผัสแต่อย่างไร กลับกัน มันเป็นการรักษาที่จะใช้กระบวนการแลกเปลี่ยน “พลังงาน” ระหว่างหมอและผู้ป่วย
โดยหมอจะยกมือเหนือ มือหรือร่างกาย ผู้รับการรักษา เพื่อส่ง “ความมีชีวิต” ไปให้พวกเขาอีกที
Emily Rosa อาศัยความจริงในข้อนี้ออกแบบการทดลองซึ่งหมอทั้ง 21 คน จะถูกปิดตาและให้ยืนมือผ่านรูบนกำแพงที่ทำจากกระดาษแข็ง ก่อนที่เด็กสาวจะยกมือเหนือมือข้างใดข้างหนึ่งแบบสุ่ม เพื่อให้อีกฝ่าย “ตรวจจับพลังงาน” และบอกว่าเธอยกมือเหนือมือข้างใดอยู่
หากการสัมผัสรักษาทำได้หญิง Emily Rosa เชื่อว่าเหล่าหมอควรจะสามารถระบุตำแหน่งมือของเธอได้ถูกต้องอย่างน้อยๆ ก็เกือบทุกครั้ง
อย่างไรก็ตามเมื่อการทดลองเกิดขึ้นจริงๆ เหล่าอาสาสมัครกลับสามารถทายตำแหน่งมือของเธอได้ถูกเพียงแค่ 44% เท่านั้น ซึ่งไม่ต่างอะไรกับการเดาสุ่มเลย
ดังนั้นเด็กสาวจึงสรุปว่าการสัมผัสรักษานั้นแท้จริงแล้วเป็นเรื่องคิดไปเอง (ส่วนที่ผู้ป่วยบางคนอาการดีขึ้นจริงๆ ต่อมาถูกสรุปว่าเกิดจาก Placebo effect คล้ายๆ กับที่คนกินยาหลอกแล้วอาการดีขึ้น)
“ถ้าพวกเขาไปที่คลินิกและรักษาผู้คนเสมอๆ เราก็ควรจะคาดหวังให้พวกเขารู้สึกถึงพลังที่ว่าตลอดเวลา”
Emily Rosa กล่าวเกี่ยวกับ
การทดลองของตัวเอง
แน่นอนว่าหลังจากที่ผลการทดลองออกมา หมอสัมผัสรักษาหลายคนก็เริ่มที่จะออกมาหาข้ออ้างเกี่ยวกับผลการทดลองของเธอ บางคนก็ว่าห้องที่ใช้ในการทดลองนั้นเย็นเกินไป บ้างก็ว่าเครื่องปรับอากาศ “พัดพลังออกไป” จนสัมผัสไม่ได้
แต่ก็อย่างที่เราทราบกันว่ามันไม่ใช่เรื่องยากนักที่นักวิทยาศาสตร์จะต่อยอดการทดลองชิ้นนี้ เพื่อล้มล้างการสัมผัสรักษาโดยสมบูรณ์
และนั่นก็ทำให้ในอีก 2 ปีต่อมาด้วยวัยเพียงแค่ 11 ปี การวิจัยของ Emily Rosa ก็ได้รับการตีพิมพ์อย่างเป็นทางการในวารสาร Journal of the American Medical Association
ทำให้เธอได้กลายเป็นบุคคลอายุน้อยที่สุดที่มีผลงานได้รับการตีพิมพ์ในวารสารการแพทย์ที่ผ่านกระบวนการตรวจสอบโดยคณะผู้เชี่ยวชาญเลย
ส่วนกระบวนการสัมผัสรักษานั้นแม้จะมีการโผล่กลับมาให้เห็นอยู่บ้างหลังจากนั้น แต่ก็ไม่มีครั้งใดอีกเลย ที่มันจะสามารถกลับมีโด่งดังเทียบเคียงการรักษาแบบธรรมดาได้ อย่างที่เคยเป็นในช่วงปี 90
ที่มา iflscience, washingtonpost