เป็นเรื่องที่เราทราบกันดีว่าโลกใบนี้นั้นมีรูปร่างเป็นทรงกลม ไม่ว่าจะด้วยการพิสูจน์ของ โคลัมบัส กาลิเลโอ หรือแม้กระทั่งการปล่อยจรวดของทางนาซาในศตวรรษที่ 20
ว่าแต่เชื่อกันไหมว่าแท้จริงแล้วมนุษย์เรามีการพิสูจน์ว่าโลกกลมมาอย่างยาวนานกว่าที่เราคิดมาก เพราะตั้งแต่เมื่อ 2,000 ปีก่อน ในสมัยก่อนคริสตกาล ชาวกรีกเองก็สามารถพิสูจน์ได้แล้วว่าโลกที่พวกเขาอยู่นั้นมีลักษณะที่กลมจริงๆ
ชายที่พิสูจน์เรื่องนี้ มีนามว่า “เอราทอสเทนีส” ชายชาวกรีกผู้ที่ได้รับชื่อว่าบิดาแห่งภูมิศาสตร์ ด้วยดีกรีชายคนแรกที่คิดหาวิธีการกำหนดตำแหน่งของสถานที่อย่างแม่นยำ และมีผลงานเด่นๆ มากมายเกี่ยวกับภูมิศาสตร์โลก
เอราทอสเทนีส ใช้วิธีการหลายอย่างในการพิสูจน์เรื่องโลกกลม ไม่ว่าจะเป็นการสังเกตกลุ่มดาวบนฟ้า หรือการเกิดจันทรุปราคา
อย่างไรก็ตามวิธีที่เขาใช้ในการพิสูจน์เรื่องโลกกลมที่เข้าใจได้ง่ายที่สุด คงจะไม่พ้นเรื่องดวงอาทิตย์ที่อียิปต์
กล่าวคือเอราทอสเทนีส ได้ทราบข่าวมาว่าที่เมืองซะฮิอีนิ (Syene) ของประเทศอียิปต์ ดวงอาทิตย์จะตรงกับบนหัวของคนพอดีในเวลาเที่ยงทำให้คนแทบจะไม่มีเงา
ดังนั้นเขาจึงเอาไม้ปักลงบนดินที่อเล็กซานเดรียเพื่อทดลองว่าในอเล็กซานเดรียนั้น ตอนเที่ยงพระอาทิตย์จะตรงกับบนหัวเช่นกันไหม
ผลที่ออกมาคือไม่ เพราะในเวลาเที่ยงเอราทอสเทนีสก็พบว่าเงาของไม้นั้นเอียงไปเป็นมุมราวๆ 7.2 องศา
ซึ่งหากดูจากระยะห่างของเมืองซะฮิอีนิ และอเล็กซานเดรียแล้ว หากโลกแบนจริงๆ ตอนเที่ยงที่เมืองอเล็กซานเดรียพระอาทิตย์ก็น่าจะตรงกับหัวพอดีเช่นเดียวกับเมืองซะฮิอีนิ
ด้วยเหตุนี้เอราทอสเทนีสจึงได้มั่นใจว่าจริงๆ แล้วโลกของเรามีผิวที่โค้งไม่ได้แบน
เมื่อเขาทราบว่าโลกโค้งเป็นมุม 7.2 องศาจากเมืองซะฮิอีนิ ไปเมืองอเล็กซานเดรีย โดยทั้งสองห่างกันราวๆ 800 กิโลเมตร เอราทอสเทนีสก็เริ่มทำการวัดขนาดเส้นรอบวงของโลกออกมาทันที
นั่นเพราะ 7.2 องศา นับเป็น 1/50 ของ 360 องศา ดังนั้นเมื่อเอา 800 ไปคูณ 50 เอราทอสเทนีสจึงบอกว่าโลกเรานั้นมีความยาวเส้นรอบวงอยู่ที่ราวๆ 40,000 กิโลเมตร ซึ่งเป็นตัวเลขที่แม่นยำอย่างมาก (ความยาวยาวเส้นรอบวงโลกอยู่ที่ราวๆ 40,075 กิโลเมตร)
และทั้งหมดทั้งมวลนี้ เอราทอสเทนีสก็วิเคราะห์มันออกมา โดยใช้เพียงแค่ไม้กับสมองเสียด้วย
วิดีโออธิบายการทดลองของ เอราทอสเทนีสแบบเต็มๆ จาก businessinsider
ที่มา businessinsider, independent