12 กุมภาพันธ์ 1912 อวสานราชวงศ์ชิง และระบอบราชาธิปไตยจีน
ปี 1908 พระนางฉือซี (ซูสีไทเฮา) ได้สวรรคต ทำให้จีนภายใต้การปกครองของราชวงศ์ชิงที่กำลังอยู่ในช่วงเสื่อมโทรม ตกอยู่ในช่วงขาลงยิ่งกว่าเดิม
ก่อนสวรรคต พระนางฉือซีได้ระบุให้เหลนของพระองค์คือเจ้าชาย “ผู่อี๋ (ปูยี)” ผู้มีพระชนม์เพียง 2 พรรษากับอีก 10 เดือน รับราชสมบัติต่อมาในนาม “จักรพรรดิซวนถ่ง” ในเดือนธันวาคมปี 1908
ต่อมาปี 1911 ได้เกิดการปฏิวัติโดยฝ่ายสาธารณรัฐนิยม นำโดย ดร.ซุน ยัตเซ็น ขึ้นมาดำรงตำแหน่งประธานาธิบดีคนแรก ก่อนจะยกตำแหน่งให้กับ หยวน ซื่อไข่ นายพลแห่งกองทัพเป่ยหยาง เพื่อให้หันมาสนับสนุน และก่อตั้งสาธารณรัฐจีนขึ้นมา
ทำให้ผู่อี๋หรือจักรพรรดิซวนถ่ง ตกอยู่ภายใต้แรงกดดันรอบด้าน ได้ทรงประกาศสละราชบัลลังก์ในวันที่ 12 กุมภาพันธ์ 1912
นำไปสู่อวสานของราชวงศ์ชิงที่ปกครองมาตั้งแต่ปี 1636 รวมถึงอวสานระบอบราชาธิปไตยของจักรวรรดิจีนอันเก่าแก่ยาวนาน 2070 ปีก่อนคริสตกาล
อย่างไรก็ตามหลังการสละราชสมบัติ มีข้อกำหนดว่าจะจะไม่มีการปลดฮ่องเต้ ผู่อี๋ยังคงประทับภายในพระราชวังต้องห้ามต่อไป และได้รับเงินสนับสนุนปีละ 4 ล้านหยวนจากรัฐบาล
(แต่มีการระบุว่าเงินจำนวนนี้ทางวังไม่เคยได้รับเต็มจำนวนและถูกยกเลิกในเวลาต่อมาไม่กี่ปีหลังจากนั้น)
ก่อนที่ในปี 1924 เกิดรัฐประหารขึ้น ผู่อี๋ถูกขับออกจากวัง และได้หันไปพึ่งพาญี่ปุ่นให้มาสนับสนุนตน แต่เมื่อญี่ปุ่นแพ้สงครามปี 1945 ก็กลายมาเป็นนักโทษทางการเมืองถูกขังคุกนานเกือบ 10 ปี
จนพอได้นิรโทษกรรมในปี 1959 ก็ออกมาใช้ชีวิตเป็นสามัญชน ก่อนถึงแก่กรรมในปี 1967 โรคมะเร็งในไตและโรคหัวใจล้มเหลว ขณะมีอายุได้ 61 ปี
ภายหลังในปี 1987 ได้มีการสร้างหนังเล่าเรื่องชีวิตของผู่อี๋ขึ้นมาในปี “จักรพรรดิโลกไม่ลืม (The Last Emperor)” ซึ่งสามารถคว้ารางวัลออสการ์มาได้ทุกสาขาที่เข้าชิง 9 สาขา
ที่มา :
https://www.silpa-mag.com/this-day-in-history/article_1880
https://military-history.fandom.com/wiki/Puyi