เคยได้ยินเรื่องราวของ “วลาดิเมียร์ โคมารอฟ” กันมาก่อนไหม นี่คือชายชาวรัสเซียซึ่งเป็น นักบินหลักของยานอวกาศ Soyuz 1 ซึ่งมี กำหนดการบินออกไปยังอวกาศหลังจากที่ยูริ กาการินเคยทำเมื่อปี 1961
อย่างไรก็ตามเรื่องราวของเขานั้น กลับไม่ใช่เรื่องราวแห่งความสำเร็จเหมือนกับนักบินคนก่อนหน้า แต่เป็นเรื่องราวแห่งความเจ็บปวด ที่สะท้อนให้เห็นปัญหาจากการบริหารของผู้นำที่ไม่ดีมากกว่า
เพราะโครงการ Soyuz 1 ในเวลานั้น ประสบปัญหาหลายอย่างจนกินเวลานานกว่าที่ควรเป็น ทำให้ผู้บริหารระดับสูงของพรรคคอมมิวนิสต์เริ่มจะทนไม่ไหว และบังคับให้มีการปล่อยจรวดทั้งที่โครงการยังไม่เสร็จสิ้นดี
เรื่องที่เกิดขึ้นนี้ทำให้ ทุกคนในโปรเจกต์รู้ดีว่าการปล่อย Soyuz 1 จะต้องจบลงอย่างเลวร้ายแน่นอน แต่ก็ไม่มีใครกล้าพอที่จะไปเถียงกับเบื้องสูง
มีคนมากมายที่บอกโคมารอฟให้เขาปฏิเสธการขึ้นบิน แต่เขาก็รู้ตัวว่าหากทำแบบนั้น ยูริ กาการินจะต้องขึ้นบินแทน จึงได้ตัดสินใจขึ้นบินด้วยตัวเอง เพื่อปกป้องชีวิตของเพื่อน
และแน่นอนว่าการปล่อย Soyuz 1 ก็จบลงด้วยหายนะจริงๆ
โดยในวันที่ 24 เมษายน 1967 โคมารอฟพุ่งลงมาจากอวกาศด้วยความเร็วพอๆ กับอุกกาบาต และกระแทกกับพื้นโลกอย่างจัง นำมาซึ่งศพที่ไหม้เป็นตอตะโกอย่างที่เราเห็น
และนั่นก็นำมาซึ่งภาพถ่ายที่ในเวลาต่อมาได้มีชื่อเสียงโด่งดังในฐานะ “ภาพในตำนาน”
เพราะในวาระสุดท้ายของชีวิต โคมารอฟ ได้ขอให้มีการเชิญเจ้าหน้าที่ระดับสูงของพรรคคอมมิวนิสต์หลายคนไปร่วมงานศพของเขา ซึ่งถูกจัดแสดงในโลงศพแบบเปิด
ราวกับเป็นการล้างแค้นเล็กๆ ของนักบินที่ต้องเสียชีวิตไป ที่บังคับให้เจ้าหน้าที่ระดับสูงต้องมาชมร่างที่เหลืออยู่ของตน ผลงานที่เกิดขึ้นจากคำสั่งไร้เหตุผลของพวกเขานั่นเอง
อ่านเรื่องราวเต็มๆ ของ วลาดิเมียร์ โคมารอฟ ได้ที่
www.catdumb.com/history/71162