ต่างไปจากตำแหน่งนายกหรือประธานาธิบดีตามปกติซึ่งจะมีช่วงเวลาดำรงตำแหน่งจำกัด พระมหากษัตริย์ พระราชินี หรือจักรพรรดิ ตามปกติมักจะครองราชย์เป็นเวลานาน บางครั้งก็อาจจะหลายสิบปี หรือจนกว่าจะหมดลมหายใจไปเลย
แต่ถึงอย่างนั้นก็ตามมันก็มีบางครั้งเหมือนกันที่ประมุขของประเทศ จะมีโอกาสได้ครองราชย์เพียงแค่ระยะเวลาสั้นๆ เพียงไม่กี่เดือน ไม่กี่วัน หรือแม้แต่ไม่กี่ชั่วโมงเท่านั้น ด้วยเหตุผลต่างๆ กันไป
เหล่ากษัตริย์และราชินีทั้ง 7 คนต่อไปนี้ ถือว่าเป็นตัวอย่างที่ดีเลยของการครองราชย์ที่แสนสั้นเหล่านั้น แต่เพราะอะไรกันคนคนหนึ่งถึงได้มีเวลาสั้นขนาดนี้ได้ เราไปชมกันเลยดีกว่า
1. พระเจ้าหลุยส์ที่ 19 กับการครองราชย์ 20 นาที
พระเจ้าหลุยส์ที่ 19 นั้น เป็นพระราชโอรสของพระเจ้าชาร์ลที่ 10 ผู้มีชีวิตอยู่ในช่วงปี 1830 โดยในเวลานั้น ฝรั่งเศสได้เกิดการปฏิวัติเดือนกรกฎาคม ส่งผลให้พระเจ้าชาร์ลที่ 10 ตัดสินใจสละราชสมบัติ โดยตั้งใจที่จะให้โอรสสละราชสมบัติพร้อมๆ กันตามไปด้วย
อย่างไรก็ตามในตอนแรก พระเจ้าหลุยส์ที่ 19ไม่พอใจกับการตัดสินใจของบิดานัก ทั้งคู่จึงมีปากเสียงกันเล็กน้อย ส่งผลให้กว่าที่พระเจ้าหลุยส์ที่ 19 จะลงนามสละราชสมบัติ มันก็ในอีก 20 นาทีต่อมา
และช่วงเวลาส่วนต่างนี้เองก็ทำให้พระเจ้าหลุยส์ที่ 19 ได้ชื่อว่าเป็นกษัตริย์ที่ครองราชย์สั้นที่สุดในโลกไป
2. วิคตอเรีย คามามาลู กับการครองราชย์แบบไม่เป็นทางการไม่กี่ชั่วโมง
วิคตอเรีย คามามาลู เป็น “คุฮินะนุ้ย” ของฮาวายในช่วงปี 1855-1863 โดยตำแหน่งของเธอนั้น สามารถเปรียบได้เป็น “ผู้ปกครองร่วม” (หน้าที่คล้ายๆ นายกรัฐมนตรี) ของกษัตริย์คาเมฮาเมฮาที่ 4 ซึ่งเป็นน้องชายของเธออีกที
นั่นทำให้ในปี 1863 กษัตริย์คาเมฮาเมฮาที่ 4 สวรรคต ฮาวายจึงเกิดปัญหาการสืบทอดทันที เพราะตามหลักแล้ว วิคตอเรีย คามามาลูที่เป็นคุฮินะนุ้ยจะต้องขึ้นครองราชสมบัติต่อ
อย่างไรก็ตามเจ้าตัวนั้นไม่ได้มีความสนใจในตำแหน่งนี้เลย ในวันเดียวกันนั้นเองเธอจึงสละราชสมบัติให้น้องชายอีกคนทันที และราชาคนใหม่ก็ไม่รอถ้ายกเลิกตำแหน่งคุฮินะนุ้ย เพื่อไม่ให้เกิดปัญหานี้อีกทันทีเลยด้วย
3. ซาร์ มิคาอิลที่ 2 กับการครองราชย์ ไม่ถึง 1 วัน
ย้อนกลับไปในวันที่ 15 มีนาคม 1917 จักรพรรดิซาร์นิโคลัสที่ 2 ของรัสเซีย ได้ตัดสินใจสละราชสมบัติภายในการปฏิวัติรัสเซีย และมักได้ชื่อว่าเป็น ซาร์คนสุดท้ายของรัสเซีย
อย่างไรก็ตามหากนับกันจริงๆ แล้วนี่อาจจะไม่ใช่เรื่องที่ถูกต้องเท่าไหร่นัก เพราะตอนที่นิโคลัสที่ 2 สละราชสมบัติ ตามหลักแล้ว ซาร์ มิคาอิลที่ 2 ที่เป็นพระอนุชาควรที่จะเป็นผู้ขึ้นมารับตำแหน่งแทนต่างหาก
อย่างไรก็ตามซาร์ มิคาอิลนั้นไม่ได้ต้องการที่จะครองบัลลังก์เลยแม้แต่น้อย ในวันต่อมาหลังได้รับตำแหน่งเจ้าตัวจึงออกมาสละราชสมบัติตามทันที
ซึ่งทำให้มันถือเป็นโชคร้ายมากที่ต่อมาเขาก็ถูกกักขังและประหารทิ้ง ไม่ต่างจากพี่ชายนัก
4. กษัตริย์ซิเกริช (Sigeric) กับการครองราชย์ 7 วัน
นี่คือกษัตริย์แห่งวิซิกอทซึ่งเข้ามารุกรานจักรวรรดิโรมันตอนปลาย (ราวๆ ปี 415) โดยขึ้นครองราชย์หลังจากกษัตริย์องค์ก่อนอย่าง แอทฮอลฟ์ (Athaulf) ถูกลอบสังหาร
สิ่งแรกที่เขาทำหลังจากขึ้นครองราชย์คือการสังประหารลูกหลายของแอทฮอลฟ์ทิ้งทั้งหมด โดยที่ไม่ได้รู้ตัวเลยว่าในอีก 7 วันต่อมา เขาจะถูกลอบสังหารทิ้งบ้าง ไม่ต่างอะไรจากแอทฮอลฟ์เลย
5. กษัตริย์เฮนรีที่ 5 แห่งฝรั่งเศส กับการครองราชย์ 7 วัน
ในนี่คือกษัตริย์ที่ครองราชย์ในช่วงสั้นๆ ต่อจากพระเจ้าหลุยส์ที่ 19 อีกที (คนที่ครองราชย์ 20 นาที) โดยเขาได้รับตำแหน่งมา เพราะเป็นญาติห่างๆ ของทั้งสอง
อย่างไรก็ตามฝรั่งเศสในช่วงนั้น เรียกได้ว่าเป็นสถานที่ที่คงไม่เหมาะกับกษัตริย์เท่าไหร่นักดังนั้นหลังจากที่ครองราชย์ได้แค่ 7 วันแบบไม่รู้ควรจะเรียกว่าเป็นกษัตริย์จริงๆ ไหมด้วยซ้ำ เฮนรีที่ 5 ก็หนีหายไป
ทิ้งบัลลังก์ไว้ให้พระเจ้าหลุยส์หลุยส์ ฟิลิปป์พระมหากษัตริย์พระองค์สุดท้ายแห่งฝรั่งเศส (ถ้าไม่นับรวมจักรพรรดินโปเลียนที่ 3 ซึ่งอยู่ในฐานะจักรพรรดิ) อีกที
6. ควีนเจน กับการครองราชย์ 9 วัน
เลดี เจน เกรย์ เดิมทีแล้วเป็นขุนนางอังกฤษที่นับถือโปรเตสแตนต์ธรรมดาๆ คนหนึ่ง ซึ่งเป็นญาติของเจ้าชายเอ็ดเวิร์ด พระโอรสองค์เดียวของพระเจ้าเฮนรี่ที่ 8
โดยเธอนั้นถูกยัดเยียดตำแหน่งราชินีของอังกฤษให้แบบไม่เต็มใจนัก หลังจากที่เจ้าชายเอ็ดเวิร์ดสวรรคต เพื่อป้องกันไม่ให้แมรีที่ 1 ซึ่งเป็นลูกสาวคนโตของพระเจ้าเฮนรี่ที่ 8 และนับถือคาทอลิกได้ครองราชย์
อย่างไรก็ตามความพยายามนี้ก็ไม่ส่งผลเพราะหลังควีนเจนครองราชย์ได้ 9 วัน เธอก็ถูกแมรีที่ 1 จับกุมตัวและประหารชีวิต ก่อนที่ต่อมาราชินีแมรีจะเผาเหล่าบุคคลต่างนิกายกว่า 300 คน จนได้ชื่อว่า “แมรีโลหิต” (Bloody Mary) นั่นเอง
7. เอลีนอร์แห่งนาวาร์ กับการครองราชย์ 2 สัปดาห์นิดๆ
“เอลีนอร์” หรือ “เลโอนอร์” เป็นลูกสาวคนเล็กของราชวงศ์นาวาร์ (หรือ นาบาร์รา) และได้รับการแต่งตั้งจากพ่อให้เป็นผู้สำเร็จราชการแผ่นดิน ลัดคิวพี่ของทั้งหมดของเธอ
น่าแปลกมากที่หลังจากนั้นบิดาของเอลีนอร์ก็เริ่มล้มป่วยและสวรรคต ไป (ว่ากันว่าเอลีนอร์เป็นคนวางยาเอง) ทำให้เธอได้ขึ้นเป็นราชินีแห่งนาวาร์ ในปี 1479
และราวกับเพิ่มความแปลกให้กับคดีที่เกิดขึ้น หลังครองราชย์ได้ราวๆ 15 วัน เอลีนอร์ก็สิ้นพระชนม์อย่างกะทันหันตามไปด้วยอีก โดยแทบไม่มีการบันทึกว่าเพราะอะไร
ที่มา ranker