สำหรับคนที่คลุกคลีกับโลกออนไลน์มานาน เชื่อว่าหลายๆ คนอาจจะเคยได้ยินเรื่องราวของกลุ่มคนที่เชื่อว่า “โลกแบน” หรือ “Flat-Earther” กันมาบ้าง เพราะเรื่องราวของกลุ่มคนเหล่านี้เรียกได้ว่ามีอะไรให้เป็นข่าวอยู่เรื่อยๆ เลย
แต่เคยคิดกันเล่นๆ ไหมว่าจะเกิดอะไรขึ้นหากวันหนึ่งโลกที่เรารู้จักกันจู่ๆ มันก็เกิดแบนขึ้นตามที่เหล่า Flat-Earther คิดกันจริงๆ? มันจะเกิดอะไรขึ้นกับชีวิตประจำวันของเราไหม?
ในวันนี้เราจะไปชม 8 เรื่องราวแปลกๆ ที่จะเกิดขึ้นหากจู่ๆ โลกของเราก็แบนเป็นจานตามความเชื่อโลกแบนกัน
ความแปลกที่ 1 : ระบบแรงโน้มถ่วงจะไม่เหมือนเดิมอีกต่อไป
บนโลกทรงกลม แรงโน้มถ่วงคือสิ่งที่ดึงวัตถุทุกอย่างให้อยู่บนพื้นไม่หลุดออกจากโลกไป และว่ากันตามตรงมันคือหนึ่งในเหตุผลที่โลกและดาวส่วนใหญ่มักมีรูปร่างเป็นทรงกลมเลย
ดังนั้นแล้วหากโลกแบนมันจะมีความเป็นไปได้สูงมากที่โลกอันนั้นจะไม่มีแรงโน้มถ่วงใดๆ เลย
หรือต่อให้มีแรงโน้มถ่วงจริงๆ มันจะดึงทุกอย่างมาที่ศูนย์กลางของดิสก์ทำให้หากคุณกระโดดไปทางทิศเหนือ คุณจะสามารถกระโดดได้ไกลกว่าเวลากระโดดไปทางใต้เสมอนั่นเอง
ความแปลกที่ 2 : เราอาจบอกลาชั้นบรรยากาศได้เลย
ในกรณีที่โลกมีรูปร่างแบนๆ แบบไม่มีแรงโน้มถ่วง โลกจะไม่สามารถรักษาชั้นบรรยากาศได้อีกต่อไป และเมื่อไม่มีบรรยากาศ ท้องฟ้าของโลกจะกลายเป็นสีดำเพราะแสงที่ปล่อยออกมาจากดวงอาทิตย์ไม่กระจายตัวเมื่อเข้าสู่ชั้นบรรยากาศของโลก
จากนั้นน้ำที่เรามีบนโลกจะค่อยๆ ระเหยออกไปในอวกาศ ในขณะที่โลกของเราจะมีอุณหภูมิเย็นลงอย่างรวดเร็วเพราะก๊าซเรือนกระจกที่หายไป ซึ่งอาจจะฟังดูดีนะถ้าร่างกายของเราไม่แข็งเป็นน้ำแข็งไปก่อน
ความแปลกที่ 3 : เราอาจจะได้เห็นฝนตกแบบแนวนอนก็ได้
ในกรณีที่โลกแบนมีแรงโน้มถ่วงแบบดึงทุกอย่างมาที่ศูนย์กลางของดิสก์ (ซึ่งในแผนที่โลกแบนส่วนใหญ่บอกว่าเป็นขั้วโลกเหนือ) น้ำฝนเองก็จะไหลไปสู่จุดนั้นเช่นกัน
เนื่องจากตามปกติน้ำฝนนั้นตกลงสู่พื้นโลกเนื่องจากแรงโน้มถ่วง ดังนั้นสิ่งที่จะเกิดขึ้นคือยิ่งคุณอยู่ห่างจากขั้วโลกเหนือแค่ไหนคุณก็จะมีโอกาสได้เห็นฝนตกแบบแนวนอนบินข้ามโลกไปยังขั้วโลกมากเท่านั้นนั่นเอง
ความแปลกที่ 4 : แผนที่โลกจะเปลี่ยนแปลงไป
นอกจากน้ำฝนแล้ว การไหลของน้ำในมหาสมุทรเองในความเป็นจริงแล้วก็ขึ้นอยู่กับแรงโน้มถ่วงเช่นกัน ดังนั้นหากโลกแบนมีแรงโน้มถ่วงแบบดึงทุกอย่างมาที่ศูนย์กลาง น้ำในมหาสมุทรทั้งหมดจะพากันไหลไปยังขั้วโลกเหนือ
เรื่องแบบนี้แน่นอนว่าอาจจะทำให้เกิดน้ำท่วมใหญ่ในหลายประเทศได้ไม่ยาก และต่อให้ไม่เกิดน้ำท่วมจริงๆ ปล่อยไว้ไม่นานนักแผนดินทางตอนใต้ของโลกก็จะแห้งแล้งขาดน้ำ เนื่องจากน้ำไหลออกไปทางเหนือหมดได้ไม่ยากเลย
ความแปลกที่ 5 : ลาก่อนระบบนำทาง
มันเป็นเรื่องที่เราทราบกันว่าระบบนำทางหรือ GPS ที่เราใช้งานกันนั้นดึงข้อมูลสำคัญๆ มาจากเครือข่ายดาวเทียม ปัญหาคือเครือข่ายดาวเทียมของโลกนั้นล้วนแต่จะทำงานภายใต้แนวคิดว่าโลกกลมทั้งสิ้น
ถึงขนาดที่นักธรณีฟิสิกส์พูดกันเลยว่าพวกเขาไม่สามารถคิดหาวิธีทำให้ GPS ทำงานได้บนโลกที่แบนเลย
ดังนั้นหากจู่ๆ โลกของเราก็แบนจริงๆ มันจะไม่ใช่เรื่องแปลกเลยที่ระบบนำทางทั้งหมดของโลกจะหยุดทำงานไปพร้อมๆ กัน ซึ่งแน่นอนว่าคงทำให้มีหลายคนไม่น้อยเลยที่ต้องหลงทางไปไหนไม่ถูก
ความแปลกที่ 6 : พายุจะหายไป
ลักษณะการหมุนของพายุที่เรารู้จักกันในปัจจุบันนั้นมาจากปรากฏการณ์ชื่อ “แรงคอริออลิส” ซึ่งเกิดจากการที่โลกหมุนรอบตัวเอง และทำให้พายุในซีกโลกเหนือหมุนตามเข็มนาฬิกา และพายุในซีกโลกใต้หมุนทวนเข็มนาฬิกา
ดังนั้นในโลกแบนๆ ที่ไม่มีการหมุนโลกของเราจะไม่มีการสร้างแรงคอริออลิสขึ้น และแน่นอนว่าทำให้ไม่มีพายุเกิดขึ้นในโลกไปด้วยนั่นเอง
ความแปลกที่ 7 : โลกทั้งใบจะมีท้องฟ้าเหมือนกัน
สำหรับโลกกลมๆ ของเรา ท้องฟ้าและตำแหน่งดาวจะเปลี่ยนแปลงไปแล้วแต่ว่าเราอยู่ที่ตำแหน่งใดของซีกโลก กลับกันไม่ว่าที่ใหนของโลกแบนๆ ตำแหน่งดาวก็จะคงอยู่แทบจะที่เดิมเสมอๆ
นี่อาจจะเป็นอะไรที่ฟังดูดีแต่มันก็เป็นเรื่องที่มีข้อเสียเช่นกัน คือการที่โลกและแบนนั้นจะทำให้เราไม่สามารถมองเห็นดวงดาวที่อยู่ใต้โลกได้เลยนั่นเอง
ความแปลกที่ 8 : พวกเราจะถูกดวงอาทิตย์เผากันหมด
การที่เรามีแรงโน้มถ่วงเปลี่ยนไปหรือ ไม่มีชั้นบรรยากาศนั้น หมายความว่าจากนี้ไปโลกแบนๆ อันนี้จะไม่มีอะไรช่วยป้องกันเราจากลมสุริยะ และรังสีที่เป็นอันตรายจากดวงอาทิตย์อีก
ซึ่งนั่นหมายความว่าสิ่งมีชีวิตแทบทุกชนิดบนโลกจะสูญพันธุ์ไปในแทบจะทันทีหากจู่ๆ วันหนึ่งโลกก็แบน ในขณะที่ตัวดาวที่เหลืออยู่อาจจะกลายเป็นที่แห้งแล้งแบบพื้นผิวของอุกกาบาตไปในที่สุดนั่นเอง
ที่มา livescience