ชม 4 การค้นหาและตรวจสอบในวงการโบราณคดี ที่น่าจับตามองที่สุดในปี 2019

การค้นหาและตรวจสอบในทางโบราณคดี ในหลายๆ ครั้งมักกินเวลาแรมปี และไม่รู้ว่าจะสำเร็จเมื่อไหร่ ถึงอย่างนั้นก็ตามหากการค้นหาเหล่านี้สำเร็จลุล่วง เราก็อาจจะได้ความรู้ใหม่ๆ ที่น่าสนใจเป็นอย่างยิ่งเลยก็เป็นได้

ด้วยเหตุนี้เองในช่วงเวลาต้นปี 2019 เช่นนี้ #เหมียวศรัทธา จึงจะพาเพื่อนๆ ไปชม 4 เรื่องราวที่น่าสนใจเกี่ยวกับการค้นหาและตรวจสอบในวงการโบราณคดี ที่น่าจับตามองที่สุดในปีนี้กัน

 

เริ่มกันที่ช่องว่างปริศนาในมหาพีระมิด

เมื่อเดือนธันวาคมปี 2017 ที่ผ่านมา นักโบราณคดีได้ ตรวจสอบมหาพีระมิดแห่งกีซาด้วยเทคโนโลยีรังสีมิวออน และได้ค้นพบช่องว่างที่ถูกปิดตายในโครงสร้างของตัวพีระมิดที่มีความกว้างมากกว่า 30 เมตร

ในเวลานี้ยังไม่มีใครทราบว่าช่องว่างที่ว่านี้ถูกสร้าง หรือว่าเกิดขึ้นเพราะอะไร แต่ในปี 2018 นักโบราณคดีก็ได้ดำเนินการตรวจสอบมหาพีระมิดแห่งกีซาด้วยมิวออน และหุ่นสำรวจขนาดเล็กอีกครั้งแล้ว

และพวกเขาก็คาดว่าจะได้รับผลผลสำรวจที่น่าสนใจภายในปี 2019 นี้เอง

 

ถ้ำโบราณสองแห่งที่เมืองคุมราน ที่อาจมีม้วนหนังสือเดดซีอยู่ภายใน

ตั้งแต่ปี 1947-2017 ม้วนหนังสือเดดซีจะมีการค้นพบในถ้ำร่วม 12 แห่ง ในประเทศอิสราเอล แต่เมื่อปี 2018 นี้เองนักโบราณคดีก็ได้ค้นพบถ้ำเพิ่มขึ้นอีก 2 แห่ง

จริงอยู่ว่าหนึ่งในสองถ้ำที่พบจะมีร่องรอยการถูกโจรเข้ามาขโมยในสมัยก่อน แต่ในอีกถ้ำหนึ่งนักโบราณคดีก็พบกับร่องรอยของอุปกรณ์ซึ่งคาดว่าใช้ใส่ม้วนหนังสือเดดซีในอดีตอยู่

ดังนั้นภายในปีนี้ เราอาจจะได้เห็นม้วนหนังสือเดดซีชิ้นใหม่ปรากฏขึ้นมาก็เป็นได้

 

ศิลาจารึกจากเมืองโบราณไอริซากริกถูกยึดได้ที่สหรัฐอเมริกา

ในช่วงปี 2017 รัฐบาลได้เข้ายึดแผ่นศิลาจารึกจำนวนมาก ที่บริษัท Hobby Lobby แอบลักลอบนำเข้ามาจากอิรัก

หลังจากคดีจบลงในปีต่อมานักโบราณคดีก็พบว่าศิลาจารึกที่ยึดมานั้น บางส่วนมาจากเมืองไอริซากริก เมืองโบราณอายุ 4,000 ปีของประเทศอิรัก และได้ทำการขออนุญาตตรวจสอบศิลาจารึกที่พบอย่างจริงจัง

ดังนั้นเราอาจจะได้เรียนรู้เรื่องราวการใช้ชีวิตของคนโบราณเมื่อ 4,000 ปีก่อนในเร็วๆ นี้ก็เป็นได้

 

ไข่อีสเตอร์ที่หายไปของจักรพรรดิรัสเซีย

ในช่วงปี 1885-1916 บริษัท “Fabergé” ได้ทำไข่อีสเตอร์สุดงดงาม จำนวน 50 ชิ้นถวายให้แก่ราชวงศ์รัสเซีย อย่างไรก็ตามไข่เหล่านี้นี้หลายชิ้นมากที่หายไปในช่วงการปฏิวัติรัสเซีย

แต่แล้วในปี 2017 สื่อต่างประเทศก็ได้พบว่ามีสหรัฐฯ เคยได้รับคลังวัตถุโบราณสองชิ้นจากสหภาพโซเวียตและตุรกีในช่วงปี 1991-1992 ซึ่งไม่มีการระบุไว้ว่ามีอะไรอยู่ข้างใน (แต่บอกว่าข้างในมีมูลค่า 9,100 ล้านบาท)

ดังนั้นนักโบราณคดีหลายๆ คนจึงเชื่อกันว่าหนึ่งในของที่อยู่ในคลังดังกล่าวอาจจะเป็นไข่อีสเตอร์ที่หายไปก็เป็นได้ และแน่นอนว่ามันอาจจะถูกเปิดเผยออกมาในปี 2019 ก็เป็นได้

 

ที่มา livescience

Comments

Leave a Reply