“คุณรู้รึเปล่าว่าเนื้อมนุษย์มีรสชาติคล้ายๆ กับเนื้อหมู ถ้าคุณผสมมันเข้าด้วยกันจะไม่มีใครรู้ถึงความแตกต่างเลย” นี่เป็นคำพูดของ Joe Metheny ฆาตกรต่อเนื่องร่างอ้วน ในตอนที่เขาสารภาพความผิดกับตำรวจ
เรื่องราวของ Joe Metheny ถูกเปิดเผยกับโลกครั้งแรกในธันวาคมปี ค.ศ. 1996 เมื่อหญิงสาวชื่อ Rita Kemper เข้าแจ้งความกับตำรวจว่าเธอถูกชายร่างท้วมคนหนึ่งจับไปยังในเมืองบัลติมอร์ รัฐแมรี่แลนด์ สหรัฐอเมริกา
สภาพของเธอในตอนนั้นดูบอบช้ำเป็นอย่างมาก ดังนั้นทางตำรวจจึงตัดสินใจส่งกองกำลังเข้าจับกุมชายคนดังกล่าว โดยเตรียมใจไว้เป็นอย่างดีว่าผู้ต้องหาจะต้องขัดขืนเป็นอย่างแน่นอน
แต่สิ่งที่ทางตำรวจไม่เคยคิดเอาไว้เลย คือ Joe Metheny นั้นกลับไม่ใช่เพียงโจรลักพาตัวธรรมดาๆ
เพราะหลังจากที่การจับกุมตัวของ Joe Metheny แล้ว ทางตำรวจก็ได้ทราบจากการสอบปากคำและคำสารภาพของชายร่างท้วมว่า Rita Kemper นั้นไม่ใช่เหยื่อคนแรกของเขา และจริงๆ แล้วเขาเคยฆ่าคนมาแล้วไม่น้อยกว่า 8 ราย
จากคำให้การของ Joe ในปี 1994 ภรรยาที่ติดยาของเขาพาลูกชายเพียงคนเดียวหนีจากเขาไป ซึ่งทำให้เขาในเวลานั้นโมโหมาก และออกตามหาภรรยากับลูกชาย โดยฆ่าหญิงขายบริการ คนไร้บ้าน และนักตกปลาที่เขาพบระหว่างทางไปด้วย
ผลของการกระทำให้ครั้งนี้ทำให้เขาถูกจำคุกเป็นเวลาหนึ่งปีครึ่ง แต่สุดท้ายก็รอดจากการรับโทษเต็มๆ มาได้ เพราะตำรวจหาศพไม่พบ (เนื่องจากเขาเอาศพโยนทิ้งลงน้ำไป)
Joe Metheny ในตอนที่โดนจับครั้งแรก
อย่างไรก็ตามหลังจากที่ได้ออกจากคุก Joe ก็ออกตามหาภรรยาต่อทันทีในขณะที่ฆ่าหญิงขายบริการไปเรื่อยๆ เพื่อเป็นการระบายอารมณ์ ล้างแค้นภรรยา และเป็นกีฬา (เจ้าตัวอ้างเช่นนั้น)
อย่างไรก็ตามเรื่องที่ทำให้ตำรวจทึ่งนั้น ไม่ใช่การสังหารโหดอย่างบ้าคลั่งของเขา แต่เป็นการกำจัดศพหลังจากที่เขาถูกปล่อยตัวต่างหาก
นั่นเพราะ Joe ที่ในเวลานั้นรู้ถึงความสำคัญในการซ่อนศพแล้ว เขาได้นำศพของเหยื่อที่ถูกเขาสังหารไปชำแหละผสมกับเนื้อหมูและทำเป็นอาหารให้ลูกค้าร้านบาร์บีคิวเล็กๆ ข้างถนนของเขาแทน
จากทำให้การของเจ้าตัว ตลอดเวลาก่อนที่เขาจะโดนจับ มีลูกค้ามากมายที่มาซื้ออาหารที่ทำจากเนื้อมนุษย์ของเขาไปรับประทาน แต่กลับไม่มีลูกค้าคนไหนเลยที่รู้ตัวว่ากำลังทานเนื้อมนุษย์อยู่
และแม้ว่าเขาจะโดนจับ แต่ดูแล้วเจ้าตัวก็ไม่ได้สำนึกเท่าไหร่เลยด้วย เพราะเขาถึงกับแซวเจ้าหน้าที่ว่า “ครั้งหน้าที่ขับรถบนถนนแล้วเห็นร้านข้างทางที่ไม่เคยมีมาก่อนก็ระวังไว้แล้วกัน อย่าลืมเรื่อง (ที่เขาเล่า) ก่อนกัดแซนด์วิชที่ซื้อมาล่ะ”
ที่มา didyouknowfacts และ allthatsinteresting
Leave a Reply
You must be logged in to post a comment.