นักวิทยาศาสตร์พบ มนุษย์โบราณ “Little Foot” เดินเหมือนลิงชิมแปนซีมากกว่ามนุษย์

หากยังจำกันได้ก่อนหน้านี้ได้มีข่าว งานวิจัยที่ชี้ความเป็นไปได้ว่าโครงกระดูกของ “Little Foot” ที่เรารู้จักกันนั้น แท้จริงแล้วอาจเป็นมนุษย์คนละสายพันธุ์กับป้าลูซี่อย่างที่เราเคยเชื่อก็เป็นได้ (อ่านข่าวเก่าได้ ที่นี่)

จริงอยู่ว่างานวิจัยในครั้งนั้นจะยังคงต้องมีการตรวจสอบยืนยันกันในปัจจุบัน แต่เมื่อล่าสุดนี้เองเราก็ได้ค้นพบสิ่งที่น่าสนใจเกี่ยวกับโครงกระดูกสุดแปลกร่างนี้อีกครั้ง

 

 

นั่นเพราะจากการวิเคราะห์โครงกระดูกของ Little Foot ด้วยเทคโนโลยีใหม่ล่าสุดแล้ว ทางนักวิทยาศาสตร์ก็พบว่า มนุษย์โบราณคนนี้ ในสมัยก่อนอาจจะเดินไม่เหมือนกับเราก็เป็นได้

Little Foot เคยถูกเชื่อว่าเป็นหนึ่งในสองมนุษย์โบราณเพศหญิงสายพันธุ์ “Australopithecus” ที่มีความสมบูรณ์ที่สุดเท่าที่เคยมีการพบมา (อีกหนึ่งร่างคือป้าลูซี่)

อย่างไรก็ตามจากการตรวจสอบกะโหลกศีรษะของเธอเพื่อจำลองสภาพอวัยวะภายในนักวิทยาศาสตร์ก็พบสามารถทำ หูชั้นในของ Little Foot ออกมาในรูปแบบ 3 มิติจนได้

 

 

นี่อาจจะเป็นการค้นพบที่ดูจะมีสำคัญอะไร แต่ในความเป็นจริงแล้วหูชั้นในของสิ่งมีชีวิตจะส่งผลโดยตรงกับการทรงตัวและเคลื่อนไหวของสัตว์ชนิดต่างๆ ดังนั้นอวัยวะส่วนเล็กๆ นี้จึงเรียกได้ว่ามีความสำคัญในทางวิทยาศาสตร์มาก

โดยในการทดลอง นักวิทยาศาสตร์ได้นำรูปร่าง 3 มิติของหูชั้นในที่ได้จาก Little Foot ไปเปรียบเทียบกับมนุษย์สกุลโฮโมโบราณ 17 สายพันธุ์ มนุษย์ปัจจุบัน 10 คน และลิงชิมแปนซี 10 ตัว

พวกเขาพบว่า Little Foot มีลักษณะหูชั้นในไม่เหมือนกับมนุษย์ทั้งในปัจจุบัน ในอดีต หรือแม้กระทั่งมนุษย์ Paranthropus ที่ไม่ได้อยู่กับมนุษย์สกุลโฮโม แต่กลับไปใกล้เคียงกับชิมแปนซีแทน

 

 

ลักษณะหูชั้นในที่เป็นเช่นนี้ ทำให้เรารู้ว่าในตอนที่ยังมีชีวิต Little Foot น่าจะมีลักษณะท่าทางในการเดิน เหมือนกับลิงชิมแปนซีมากกว่ามนุษย์

นั้นหมายความว่าแม้ Little Foot จะเดินสองขาก็ตามแต่เธอก็มักจะใช้ชีวิตบนต้นไม้อยู่บ่อยๆ และน่าจะมีถิ่นที่อยู่ อาหารการกิน และลักษณะการสื่อสารที่ต่างไปจากมนุษย์สายพันธุ์อื่นๆ เป็นอย่างมาก

การค้นพบในครั้งนี้อาจนำมาซึ่งความเป็นไปได้ที่หลากหลาย ไม่ว่าจะเป็นเรื่องที่ว่า Australopithecus อาจจะเป็นมนุษย์ที่ยังไม่มีการพัฒนาการเดินหลังตรงอย่างเต็มที่ เรื่อยไปจน Little Foot อาจจะไม่ใช่มนุษย์ หรือเป็นมนุษย์สายพันธุ์ใหม่อย่างที่เคยถูกอ้างเลยทีเดียว

 

 

แต่ไม่ว่าจะเป็นทางไหนการค้นพบในครั้งนี้ก็นับว่าเป็นการค้นพบที่น่าสนใจมากๆ ชิ้นหนึ่งเลยอยู่ดี และทีมนักวิทยาศาสตร์เองก็ตั้งใจว่าจะทำการศึกษาเรื่องราวของโครงกระดูกของ Little Foot เพื่อข้อมูลที่น่าสนใจต่อไป

 

ที่มา livescience

Comments

Leave a Reply