กลายเป็นอีกประเด็นสั่นสะเทือนวงการกีฬาเกาหลีใต้ และสร้างข้อสงสัยให้กับคนภายนอกที่ได้รับรู้ข่าวนี้ ว่าแท้จริงแล้วเกิดอะไรขึ้นกันแน่??
เมื่อสาวนักกีฬาสเก็ตน้ำแข็งระยะสั้น ดีกรีแชมป์โอลิมปิก 2 สมัย “ชิม ซุก-ฮี” ยื่นฟ้องอดีตโค้ชของเธอเอง “โช แจบอม”
ทางตำรวจเปิดเผยข้อมูลว่าการฟ้องดำเนินคดีครั้งนี้ เกี่ยวข้องกับกระเด็นล่วงละเมิดทางเพศ และทำร้ายร่างกาย ซึ่งเกิดขึ้นตั้งแต่สมัยที่เธอยังเรียนอยู่ชั้นมัธยมปลาย และอายุเพียง 17 ปี
โดยมีลำดับเหตุการณ์ต่อมาดังนี้
– ชิม ระบุว่าอดีตโค้ชของเธอล่วงละเมิดมาเป็นเวลาเกือบ 5 ปี จนกระทั่งก่อนการแข่งขันโอลิมปิกฤดูหนาวเมื่อเดือนกุมภาพันธ์ปี 2018 ที่ผ่านมา
– ในเดือนมกราคม 2018 เธอหนีออกจากแคมป์ทีมชาติ ท่ามกลางข้อวิพากษ์วิจารณ์ที่ว่า เธอต้องการหนีจากโค้ชโชซึ่งชอบทำร้ายร่างกายนักกีฬาเป็นประจำ
– พอเรื่องแดงขึ้นมาและกลายเป็นคดีความ ในเดือนกันยายน 2018 โค้ชโชถูกตัดสินจำคุกเป็นเวลา 10 เดือน ในข้อหาทำร้ายร่างกายนักกีฬา
ซึ่งนอกจากชิมแล้วยังมีนักกีฬาสเก็ตอีก 3 คน ที่ระบุว่าถูกทำร้ายร่างกายตั้งแต่ปี 2011 จนถึงปี 2018
– ต่อมาในวันที่ 17 ธันวาคม 2018 ทางตำรวจได้รับแจ้งความเพิ่มเติม ในประเด็นการถูกข่มขืนและล่วงละเมิดทางเพศ
ซึ่งทางชิม ให้เหตุผลว่า “ก่อนหน้านี้ไม่สามารถออกมาพูดได้ เพราะโค้ชเป็นผู้กุมอนาคตในอาชีพนักกีฬาของฉันอยู่”
“ฉันอยากให้เขาถูกลงโทษอย่างสาสม จะได้ไม่ไปทำเรื่องแบบนี้กับใครอีก”
อย่างไรก็ตาม ประเด็นดังกล่าวถูกจับตามองจากหลายฝ่าย ท่ามกลางการตั้งคำถามถึงความไม่ชอบมาพากลในแคมป์ทีมชาติ ไม่ใช่เพียงกีฬาสเก็ต แต่รวมถึงกีฬาอื่นๆ ที่มีโค้ชทำงานกับนักกีฬาต่างเพศด้วย
มีบางส่วนวิจารณ์ว่าเหตุใดจึงออกมาร้องทุกข์ตอนนี้ หรือเธออาจจะมีความสัมพันธ์ลึกซึ้งกับโค้ช แล้วใช้การข่มขืนเป็นประเด็นในการแบล็คเมล์เขาเพราะผิดใจบางอย่าง
แต่บางส่วนก็ออกมาปกป้อง ว่าเธอคือเหยื่อจากระบบของทีมชาติที่โค้ชเป็นใหญ่ และนักกีฬาต้องจำใจรับทุกสภาพอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้
ปัจจุบันโทษของโค้ชโชคือการจำคุก 10 เดือนจากเหตุทำร้ายร่างกาย แต่หากศาลตัดสินเพิ่มเติมว่าเขามีความผิดในการล่วงละเมิดทางเพศ ซึ่งเกิดขึ้นขณะที่เหยื่อยังมีอายุเพียง 17 ปี
ก็อาจทำให้โทษของโค้ชโชหนักขึ้นอีกหลายเท่าเช่นกัน…
ที่มา: China Xinhua News, koreaherald
Leave a Reply
You must be logged in to post a comment.