จริงอยู่ที่ว่าความสุขของคนเรานั้นแตกต่างกันออกไป แต่ถ้าเรามีทรัพยากรอย่างเงินอยู่อย่างจำกัด แล้วกำลังชั่งใจอยู่ว่าจะนำมันไปสร้างความสุขให้กับตัวเองอย่างไรดี
วันนี้วิทยาศาสตร์ได้มีคำตอบให้คุณแล้วนั่นคือ คุณควรที่จะนำเงินตรงนี้ไปใช้ ‘ซื้อประสบการณ์’ อย่างเช่นการท่องเที่ยวหรือกิจกรรมต่างๆ มากกว่าซื้อสิ่งของที่เราอยากได้!!
“หนึ่งในศัตรูตัวฉกาจของความสุขคือ ‘ความเปลี่ยนไป’” ศาสตราจารย์ผู้ศึกษาเรื่องนี้กล่าว
นี่เป็นผลงานวิจัยจากมหาวิทยาลัย Cornell University ที่จัดทำขึ้นโดยนาย Thomas Gilovich ศาสตราจารย์ด้านจิตวิทยาผู้ศึกษาเรื่องเงินและความสุขมากว่า 2 ทศวรรษ โดยเขาได้กล่าวเอาไว้ว่า
ผลการวิจัยสามารถสรุปออกมาได้ว่าคนเราจะมีระดับปริมาณความสุขในการซื้อสิ่งของที่เราอยากได้ มากเท่าๆ กับการซื้อประสบการณ์อย่างการไปเที่ยว…
แต่ว่าพอถึงจุดหนึ่งสิ่งของเหล่านั้นก็จะหมดคุณค่าลง และกลายเป็นเพียงทรัพย์สินอย่างหนึ่งของเราเท่านั้น แล้วทีนี้เราก็จะหาสิ่งของชิ้นใหม่มาเต็มเติมให้เรารู้สึกตื่นเต้นและอยากได้มันมาครอบครองอีกครั้ง
จนกลายเป็นวัฎจักรที่วนไปไม่รู้จบ และต้องหาความสุขใหม่ๆ จากวังวนนี้อยู่เสมอ
“เราซื้อสิ่งของเพื่อให้ตัวเรามีความสุขและรู้สึกว่าประสบความสำเร็จ แต่นั่นก็เพียงชั่วครู่เดียวเท่านั้น สิ่งของที่เราได้มาใหม่ในตอนแรกก็จะดูหมดคุณค่าลงเรื่อยๆ” Gilovich กล่าว
แต่ว่าในทางกลับกันถ้าหากเรานำไปใช้กับการซื้อประสบการณ์อย่างการท่องเที่ยว ไปดูคอนเสิร์ตหรือว่าฝึกทักษะใหม่ๆ
แน่นอนว่ามันอาจดูเป็นเพียงช่วงเวลาสั้นๆ แต่สิ่งที่ได้จากกิจกรรมตรงนี้คือ ‘ประสบการณ์’ ที่จะติดตัวเราไปตลอดกาล
และทุกๆ ความทรงจำจะอยู่กับเราไปตลอดชั่วชีวิต…
“ประสบการณ์เป็นส่วนหนึ่งที่ใหญ่เอามากๆ ในตัวของเรามากกว่าพวกข้าวของเครื่องใช้ที่เราสามารถหยิบจับได้”
“คุณสามารถรู้สึกหลงรักกับข้าวของได้อย่างไม่น่าเชื่อ และคิดว่ามีสายเชื่อมโยงระหว่างเรากับมัน แต่ถึงอย่างไรแล้วมันก็เป็นเพียงสิ่งของนอกกายที่ไม่ได้อยู่ในตัวเรา ในทางกลับกันประสบการณ์จะเป็นส่วนหนึ่งในตัวของคุณ”
“พวกเรา (มนุษย์) คือผลลัพธ์ของการรวมประสบการณ์เข้าด้วยกัน” Gilovich กล่าวปิดท้าย
เรียบเรียง #เหมียวจิวยี่
ที่มา:
www.fastcompany.com/3043858/the-science-of-why-you-should-spend-your-money-on-experiences-not-thing
Leave a Reply
You must be logged in to post a comment.