เคยได้ยินตำนานของ “จอห์นสันผู้กินตับ” แห่งรัฐไวโอมิง สหรัฐอเมริกากันไหม? มันเป็นเรื่องของชายคนหนึ่งที่ต้องเสียภรรยาไปในการโจมตีของอินเดียนแดง ดังนั้นเขาจึงออกล้างแค้น ด้วยการสังหารและกินตับศัตรูของเขาเสีย
จอห์นสันผู้กินตับ มีชื่อจริงๆ ว่า “John Jeremiah Garrison Johnston” เชื่อกันว่าเกิดเมื่อปี 1824 ที่รัฐนิวเจอร์ซี และเข้าเป็นทหารเรือในสงครามเม็กซิกันอเมริกัน ก่อนที่จะหนีทัพในเวลาต่อมาหลังจากที่เขาไปสังหารนายทหารระดับสูงเข้า (ไม่แน่ใจว่าเพราะอุบัติเหตุ หรือจงใจกันแน่)
เขาหนีมาอยู่ที่รัฐมอนแทนา ได้พบรักกับภรรยาที่เป็นสาวอินเดียนแดงเผ่าหัวแบน (Flathead) และอยู่ด้วยกันเรื่อยมาจนเธอตั้งครรภ์ จนกระทั่งวันหนึ่งในปี 1847 ภรรยาของเขาก็ถูกฆ่าโดยอินเดียนแดงเผ่าอีกา
เรื่องที่เกิดขึ้นทำให้จอห์นสันโกรธแค้นมากดังนั้นเขาจึงออกไล่ล่าอินเดียนแดงเผ่าอีกาด้วยอาวุธจากสมัยที่เขาเป็นทหาร
อย่างไรก็ตามการสังหารศัตรูเป็นจำนวนมากนั้นไม่ใช่เรื่องเดียวที่ทำให้ผู้คนหวาดกลัวในตัวเขา แต่เป็นเพราะตัวจอห์นสันจะกินตับศัตรูทุกคนที่เขาสังหารด้วย
ดูเหมือนว่าที่เขาทำแบบนั้นเป็นเพราะอินเดียนแดงเผ่าอีกาเชื่อว่าคนตายจะได้ไปโลกหน้าได้ต่อเมื่อมีตับอยู่เท่านั้น ดังนั้นเพื่อไม่ให้ศัตรูของเขาได้ตายอย่างสงบจอห์นสันจึงควักเอาใบผ่านทางสู่โลกหน้าของเผ่าอีกามากินเสีย และแน่นอนว่ากลายเป็นที่มาของสมญานาม “ผู้กินตับ” ของเขาไป
ว่ากันว่าจอห์นสันผู้กินตับสังหารเผ่าอีกาไปมากกว่า 300 คน แถมขนาดโดนจับปลดอาวุธส่งให้เผ่าอีกาเขาก็ยังหนีออกมาได้ โดยตัดขายามมากินเป็นของแถมด้วย จนทำให้ชื่อของเขากลายเป็นที่หวาดกลัวของชาวอินเดียนแดงไปได้ไม่ยากเลย
ไม่มีบันทึกไว้แน่ชัดว่าการล้างแค้นของจอห์นสันจบลงจริงๆ เมื่อไหร่ แต่นักโบราณคดีหลายๆ รายก็เชื่อว่าเผ่าอีกาน่าจะขอสงบศึกกับเขาในตอนที่ชาวอินเดียนแดงต้องรวมกองกำลังหลายๆ ชนเผ่าไปรบกับสหรัฐอเมริกา ดังนั้นจอห์นสันจึงได้กลับไปอยู่อย่างสงบสุขอีกครั้ง
ภาพจากภาพยนตร์เรื่อง Jeremiah Johnson ที่ได้แรงบันดาลใจมาจากเรื่องราวของจอห์นสันผู้กินตับ
เขากลับเข้าร่วมกองทัพในปี 1864 ก่อนจะถูกปลดประจำการอย่างมีเกียรติ และได้รับหน้าที่เป็นนายอำเภอของเมือง Red Lodge ในรัฐมอนแทนาต่อไป
จอห์นสัน เสียชีวิตลงที่ลอสแองเจลิสในปี 1900 ก่อนที่ร่างของเขาจะถูกย้ายไปฝังที่รัฐไวโอมิง สถานที่ซึ่งตำนานจอห์นสันผู้กินตับของเขา จะถูกเล่าขานสืบทอดจากรุ่นสู่รุ่นสืบไปอีกนานเท่านาน
ที่มา allthatsinteresting
Leave a Reply
You must be logged in to post a comment.