งานวิจัยใหม่เผย ก้อนหินที่นักบินอวกาศเก็บมาจากดวงจันทร์ จริงๆ แล้วอาจเคยเป็นของโลก

ในตอนที่นักบินของอะพอลโล 14 บินขึ้นไปเหยียบดวงจันทร์ในปี 1971 พวกเขาได้หยิบหินจากดวงจันทร์กลับมายังโลกก้อนหนึ่ง ซึ่งในแม้ว่าหินก้อนนี้จะมีคนสนใจอยู่มาก แต่สุดท้ายมันก็ถูกมองเป็นเพียงก้อนหินจากดวงจันทร์ธรรมดาๆ เท่านั้น

แต่จากการตรวจสอบครั้งล่าสุดของนักวิทยาศาสตร์ ก้อนหินก้อนดังกล่าวจะไม่ใช่แค่ก้อนหินจากดวงจันทร์เฉยๆ แต่มีชิ้นส่วนของก้อนหินจากโลกที่ปลิวขึ้นไปบนดวงจันทร์ เมื่อราวๆ 4 พันล้านปีก่อนอยู่ด้วย

 

จุดที่ลูกศรชี้คือชิ้นส่วนที่เชื่อกันว่ามาจากโลก

 

นั่นเพราะในก้อนหินที่พบนั้นมีปริมาณของควอตซ์ เฟลด์สปาร์ และเพทาย ผสมอยู่ถึง 2 กรัม ซึ่งนับว่าเป็นเรื่องที่แปลกมากสำหรับดวงจันทร์ที่ไม่ค่อยมีแร่ทั้งสามชนิดนี้

แถมจากการทดลองทางเคมีการตกผลึกของหินก้อนนี้ยังเกิดขึ้นในสถานที่ที่มีกระบวนการออกซิไดซ์อีกด้วย ดังนั้นจึงไม่น่าจะเกิดขึ้นได้บนดวงจันทร์ที่ไม่มีออกซิเจน

นั่นทำให้แทนที่จะบอกว่าก้อนหินก้อนนี้อยู่บนดวงจันทร์มาตั้งแต่ต้น มันมีความเป็นไปได้มากกว่าที่จะบอกว่าก้อนหินนี้เคยอยู่ใต้ผืนโลกมาก่อน และปลิวออกไปยังดวงจันทร์ด้วยแรงกระแทกจากอะไรบางอย่าง (อาจเป็นอุกกาบาต) เมื่อ 4 พันปีก่อน

 

 

ด้วยความที่ในสมัยนั้นดวงจันทร์จะอยู่ใกล้โลกกว่าในปัจจุบันถึง 3 เท่า ชิ้นส่วนชิ้นนี้จึงพุ่งไปถึงพื้นผิวของดวงจันทร์ได้ไม่ยาก มันละลายและฝังลงไปในพื้นผิวดวงจันทร์นานหลายพันปี

ส่วนหนึ่งของก้อนหินดังกล่าวถูกขุดขึ้นมาอีกครั้งเมื่อราวๆ 26 ล้านปีก่อนจากการที่พื้นที่ใกล้ๆ ถูกชนด้วยอะไรบางอย่าง (อาจจะเป็นหินจากโลกอีกก้อน) จนเป็นหลุมขนาด 340 เมตร และถูกเก็บกลับมาบนโลกในที่สุดเมื่อ 47 ปีที่แล้ว

 

หลุมขนาด 340 เมตร ที่อยู่ใกล้ๆ สถานที่ลงจอดของอะพอลโล 14

 

นี่อาจจะเป็นเรื่องที่ฟังดูบังเอิญเกินจริงอยู่บ้าง แต่งานวิจัยชิ้นนี้ก็มีหลักฐานยืนยันที่ค่อนข้างน่าเชื่อถือเลยทีเดียว แถมหากจะว่ากันตามตรงแล้ว ในบรรดาทฤษฎีกำเนิดดวงจันทร์ที่มีชื่อเสียงเองก็มีทฤษฎีที่บอกว่าดวงจันทร์เกิดจากการที่โลกถูกชนในอดีตอยู่เหมือนกัน

ดังนั้นการที่หินก้อนหนึ่งจะปลิวจากโลกไปถึงดวงจันทร์นั้นก็ไม่น่าจะเป็นเรื่องที่เป็นไปไม่ได้แต่อย่างใด

 

สมมติฐานเรื่องการชนครั้งใหญ่ เชื่อกันว่าเมื่อ 4,500 ล้านปีก่อน โลกโดนชนโดยดาวขนาดเท่าดาวอังคารจนเกิดเป็นดวงจันทร์

 

ที่มา livescience

Comments

Leave a Reply