หากพูดถึงชื่อของ “Matthew Flinders” (1774-1814) คงเป็นชื่อที่คนไทยไม่ค่อยรู้จักเท่าไหร่ แต่สำหรับชาวออสเตรเลียและชาวอังกฤษแล้ว ชายคนนี้นับว่าเป็นผู้ที่มีชื่อเสียงมากคนหนึ่งเลย เพราะเขาเป็นชาวยุโรปคนแรกที่ล่องเรือรอบทวีปออสเตรเลียและระบุว่าที่แห่งนี้จริงๆ แล้วเป็นทวีป
ตลอดเวลา 200 ปีที่ผ่านมาไม่มีใครทราบว่าร่างของ Matthew ถูกฝังเอาไว้ที่ไหน จนกระทั่งเมื่อช่วงปลายเดือนมกราคมปี ค.ศ. 2019 ที่ผ่านมา นักโบราณคดีก็ขุดพบร่างของนักเดินทางชื่อดังคนนี้เข้าจนได้
อ้างอิงจากการรายงานของสื่อต่างประเทศ โลงศพของ Matthew ถูกพบที่บริเวณด้านหลังของสถานีรถไฟยูสตัน ในประเทศอังกฤษ ซึ่งในอดีตเคยใช้เป็นสุสานขนาดใหญ่มาก่อน
อย่างไรก็ตาม จากการที่ทางรัฐบาลวางแผนที่จะดัดแปลงสถานีรถไฟยูสตันเป็นสถานีรถไฟความเร็วสูงภายใต้โปรเจกต์ชื่อ HS2 ทางสถานีจึงได้มีการขุดย้ายศพในสุสานออกไปไว้ยังสถานที่อื่นแทน
และในบรรดาหลุมศพกว่า 45,000 หลุมที่ต้องมีการเคลื่อนย้ายออกไป ทีมงานก็พบกับโลงศพที่มีแผ่นตะกั่วระบุชื่อ “Capt. Matthew” ฝังเอาไว้อยู่ใต้ดิน
และเมื่อนำโลงศพที่พบไปตรวจสอบ พวกเขาก็พบว่าร่างที่อยู่ข้างในนั้นมีความเป็นไปได้สูงมากที่จะเป็น Matthew Flinders ผู้ซึ่งเสียชีวิตในปี 1814 จริงๆ
นี่นับว่าเป็นการค้นพบที่มีความสำคัญในหลายๆ ด้านสำหรับประเทศอังกฤษเลย เพราะไม่เพียงแต่โลงศพที่พบจะมีความสำคัญทางประวัติศาสตร์มาก แต่การค้นพบนี้ยังช่วยลบตำนานเมืองเก่าๆ ที่อ้างว่าสถานีรถไฟยูสตันสร้างทับร่างของ Matthew ไปในอดีตอีกด้วย
และร่างของ Matthew ที่มาจากศตวรรษที่ 19 เองก็ยังสามารถนำไปตรวจสอบว่าชีวิตกลางทะเลในสมัยก่อนจะส่งผลอย่างไรกับสุขภาพของชาวเรือได้อีกด้วย
ที่มา history, bbc และ ancient-origins
Leave a Reply
You must be logged in to post a comment.