ด้วยความที่เทคโนโลยีในโลกถูกพัฒนาขึ้นเพื่อมอบความสะดวกสบายให้กับมนุษย์ หลายคนจึงคิดว่าไม่มีความจำเป็นที่จะต้องหาแฟนหาคู่ครองกันอีกต่อไป เพราะว่าได้มีสิ่งทดแทนเกิดขึ้นบนโลกอย่างมากมาย
อาทิ ตุ๊กตายางเพื่อตอบสนองความต้องการทางเพศ หรือหุ่นยนต์ตุ๊กตายาง ที่ล้ำขึ้นไปอีกขั้นด้วยสามารถโต้ตอบเราได้ด้วยระบบ AI (ปัญญาประดิษฐ์)
แต่ถึงอย่างไรแล้วการมีอยู่ของสิ่งเหล่านี้ก็อาจทำให้เกิดปัญหาในโลกขึ้นได้ เมื่อมีการค้นพบว่าสิ่งของที่สร้างขึ้นมาเพื่อรองรับความต้องการของผู้คน
อาจเป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้วิกฤตการณ์ ‘อัตราการเกิด’ ที่น้อยลงเป็นอย่างมาก โดยเฉพาะในประเทศญี่ปุ่น!!
ในปัจจุบันสถานการณ์เรื่องอัตราการเกิดกลายมาเป็นเรื่องใหญ่ในประเทศญี่ปุ่น จนถึงขั้นที่บางคนมีความเชื่อว่าชาวญี่ปุ่นอาจจะกลายเป็นชนชาติที่ ‘ใกล้สูญพันธุ์’ ในอนาคตอันใกล้เลยก็ว่าได้
โดยในปี 2018 มีเด็กที่เกิดในประเทศญี่ปุ่นทั้งสิ้นราวๆ 921,000 คน ลดน้อยลงกว่าในปี 2017 ถึง 25,000 คน ซึ่งนับว่าเป็นตัวเลขที่ต่ำที่สุดในประวัติศาสตร์ตั้งแต่ปี 1899 เลยทีเดียวจากคำแถลงการณ์ของหน่วยงานภาครัฐ
ขณะเดียวกันในปี 2018 ที่ผ่านมาเช่นเดียวกัน ก็มีอัตราการเสียชีวิตของชาวญี่ปุ่นอยู่ที่ 1.3 ล้านคน นั่นจึงหมายความว่าจำนวนประชากรระหว่างการเกิด – การเสียชีวิตมีจำนวนห่างกันมากเกือบๆ 500,000 คนในปีเดียวกัน
ในเรื่องนี้ด้านด็อกเตอร์ Kate Devlin อาจารย์อาวุโสฝ่ายระบบปัญญาประดิษฐ์ ด้านสังคมและวัฒนธรรมของมหาวิทยาลัย King’s College London ได้กล่าวว่า
หุ่นยนต์ตุ๊กตายางอาจเป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้เกิดปัญหาและมีแนวโน้มที่หนักขึ้นกว่าเดิม แต่ก็ไม่ใช่ทั้งหมด…
“ในประเทศญี่ปุ่น ซึ่งเป็นประเทศที่ความโดดเดี่ยวของผู้คนกลายเป็นปัญหาใหญ่ทางสังคมของประเทศ การเข้ามาของหุ่นยนต์อาจทำให้สถานการณ์แย่ลงไปอีก อย่างการที่บางคนมีแฟนสาวเป็นหุ่นยนต์ AI”
“แต่ถึงอย่างไรแล้วอัตราการเกิดที่ลดน้อยลงจนกลายเป็นปัญหาก็มาจากปัจจัยอื่นๆ เช่นเดียวกัน อย่างเช่นเรื่องของเศรษฐกิจที่เป็นเหตุผลหลักๆ เลยก็ว่าได้ พวกเราจึงไม่สามารถกล่าวโทษเทคโนโลยีเพียงอย่างเดียว” Kate กล่าว
อย่างไรก็ตามนายชินโซ อาเบะ นายกรัฐมนตรีของประเทศญี่ปุ่นก็ยกเรื่องนี้ขึ้นเป็นวาระแห่งชาติ และหาทางแก้ไขปัญหาด้วยการเพิ่มสถานรับเลี้ยงเด็กเล็ก รวมทั้งนโยบายต่างๆ ที่สนับสนุนให้คู่รักมีลูกเพิ่มขึ้นด้วย…
Leave a Reply
You must be logged in to post a comment.