จะเกิดอะไรขึ้นหากวันหนึ่งคุณไปพบกับระเบิดมือจากสงครามโลกครั้งที่สองโดยบังเอิญ คุณจะโทรแจ้งนักโบราณคดีอย่างนั้นเหรอ? หรือว่าคุณจะโทรเรียกหน่วยกู้ระเบิด?
ไม่ว่าจะทางไหนเชื่อว่าคงไม่มีใครทำเรื่องสุดประหลาดเหมือนกับ Lorena Upton และ Charles Carter สองคู่รักชาวฟลอริดา สหรัฐอเมริกา เมื่อวันที่ 26 มกราคม ค.ศ. 2019 ที่ผ่านมานี้แน่ๆ
เพราะแทนที่จะโทรเรียกเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องทันทีที่พบระเบิด พวกเขากลับหยิบระเบิดลูกที่พบแล้วขับรถไปร้านทาโก้ เบลล์ที่เมือง Ocala เสียอย่างนั้น
จากรายงานของสื่อต่างประเทศ ในวันที่เกิดเหตุ Lorena และ Charles คนขายเศษเหล็ก ไปตกปลา (อันที่จริงต้องบอกว่าไปตกหาเศษเหล็ก) กันที่แม่น้ำ Ocklawaha และบังเอิญตกได้ระเบิดมือรุ่น Mk 2 ที่เคยถูกใช้งานกันอย่างแพร่หลายในหมู่ทหารสหรัฐฯ
อย่างไรก็ตามในเวลานั้นพวกเขายังไม่แน่ใจว่าสิ่งที่พบนั้นเป็นอะไร จริงอยู่ว่าพวกเขาสงสัยอยู่บ้างว่าสิ่งที่พบอาจจะเป็นระเบิด แต่ก็ไม่ได้ปักใจเชื่อมากมายนัก
ดังนั้นแทนที่จะเรียกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทันที Charles ก็ตัดสินใจเก็บระเบิดไว้กับเศษเหล็กอื่นๆ ที่ตกได้ และขับรถไปทานอาหารที่ร้านทาโก้ เบลล์แทน
พวกเขาติดต่อหาตำรวจที่นั่นเพื่อยืนยันตัวตนของสิ่งที่พวกเขาพบ และก็ต้องตกใจเมื่อทราบว่าสิ่งที่เขาตกขึ้นมานั้นเป็นระเบิดจากช่วงสงครามโลกจริงๆ
จากข้อมูลอ้างอิงในคู่มือภาคสนามกองทัพสหรัฐฯ เมื่อปี 1988 ระเบิด Mk 2 แม้จะมีน้ำหนักเพียง 595 กรัม แต่ก็มีรัศมีระเบิดกว้างได้มากถึง 10 เมตร
ดังนั้น เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นจึงทำให้ทางตำรวจต้องอพยพคนออกจากร้านเป็นการด่วน ก่อนที่หน่วยกู้ระเบิดจะเข้ามาทำการเก็บกู้วัตถุโบราณชิ้นนี้ในเวลาต่อมา
จากข้อมูลที่ได้รับการเปิดเผยของทางทีมกู้ระเบิด แม้ว่าระเบิดลูกนี้จะอยู่ในสภาพที่ไม่น่าจะทำงานได้แล้วก็ตาม แต่ด้วยความเก่าแก่ก็ทำให้ผิวนอกของมันผุพังไปมากซึ่งเสี่ยงต่อการเกิดอุบัติเหตุ ดังนั้นระเบิดลูกนี้จึงมีกำหนดการที่จะถูกนำไปทำลายทิ้งในทันที
ส่วนทางร้านทาโก้ เบลล์ที่เกิดเหตุเองหลังจากที่การเก็บกู้ระเบิดจบลงก็สามารถเปิดบริการต่อไปได้ในทันที โดยที่ไม่ได้รับผลกระทบรุนแรงใดๆ จากเรื่องที่เกิดขึ้นในครั้งนี้
ที่มา livescience, washingtonpost และ heraldtribune
Leave a Reply
You must be logged in to post a comment.