Ibuprofen หรือ Brufen เป็นยาแก้ปวดลดการอักเสบที่เรามักจะใช้กันอยู่เป็นประจำ แต่เพื่อนๆ เคยรู้ถึงที่มาของมัน หรือเคยเห็นหน้าของคนที่คิดค้นมันขึ้นมากันบ้างรึเปล่า?
ก่อนอื่นต้องขอบอกก่อนเลยว่า ยา Ibuprofen เนี่ย เป็นยาที่มีสรรพคุณทั้งแก้ปวด และลดการอักเสบ เรียกได้ว่ากินหนึ่ง แต่ได้ถึงสองเลยทีเดียว!! ซึ่งแตกต่างจาก Paracetamol ที่แก้ปวดได้เพียงอย่างเดียว
ฉะนั้นคนที่คิดค้นมันขึ้นมาได้จะต้องเทพมากเลยทีเดียวเลยทีเดียวใช่มั้ยล่ะ? วันนี้ #เหมียวหง่าว จะขอพาเพื่อนๆ ไปฟังเรื่องราวต้นกำเนิดของมันครับ
ขอแนะนำให้ทุกท่านรู้จักกับ ดอกเตอร์ Stewart Adams จบการศึกษาทางด้านเภสัชศาสตร์จากมหาวิทยาลัย Nottingham ประเทศอังกฤษ ก่อนที่จะได้รับปริญญาดุษฎีบัณฑิตทางด้านเภสัชวิทยาในจากมหาวิทยาลัย Leeds ในปี 1952
หลังจากที่เรียนจบแล้วดอกเตอร์ Adams ก็ได้มาทำงานในบริษัท Boots Pure Drug Company ทำวิจัยคิดค้นหาวิธีการรักษาโรคไขข้ออักเสบรูมาตอยด์
จากการวิจัยทำให้เขาได้พบกับสเตียรอยด์ชนิดหนึ่งที่ใช้งานได้อย่างเห็นผล แถมยังไม่มีผลข้างเคียงอีกด้วย
จนกระทั่งในปี 1962 ในเมือง Nottingham จากการผ่านการทดลองสูตรต่างๆ มากมาย ก็นำไปสู่การค้นพบ ‘กรดโพรพิโอนิค’ ชนิดใหม่ ที่ชื่อว่า ‘2-(4-isobutyl phenyl)’ ซึ่งภายหลังมันถูกเปลี่ยนชื่อกลายมาเป็น Ibuprofen นั่นเอง
หลังจากที่ค้นพบมันดอกเตอร์ Adams และทีม ต้องใช้เวลาอีกกว่า 7 ปี ในการจดทะเบียนและได้รับใบอนุญาต และภายหลังเจ้า Ibuprofen ก็กลายมาเป็นหนึ่งในยาแก้อักเสบที่ขายดีมากที่สุดในโลก
และที่สำคัญท่านดอกเตอร์ยังเคยได้รับเครื่องราชอิสริยาภรณ์จากสมเด็จพระราชินีนาถอลิซาเบธที่ 2 เมื่อปี 1980 อีกด้วย
ภายหลังในปี 2013 ดอกเตอร์ Adams ออกมาเปิดเผยกับ BBC ว่า ตอนที่ยังคิดค้นเจ้ากรด 2-(4-isobutyl phenyl) ขึ้นมาได้ใหม่ๆ เขาเคยทดลองมันด้วยการใช้บรรเทาอาการแฮงก์ของตัวเอง
“ในวันนั้นผมปวดหัวมากๆ หลังจากที่ดื่มมาอย่างหนักกับเพื่อนๆ ตอนกลางคืน ก็เลยใช้เจ้ายาตัวนี้ ขนาด 600 มิลลิกรัม และผมว่ามันได้ผลดีมากเลย”
และเป็นเรื่องที่น่าเศร้ามากๆ ที่ท่านดอกเตอร์ได้จากโลกเราไปแล้ว เมื่อวันพุธที่ผ่านมา ด้วยวัย 95 ปี
โดยนาย Chris ลูกชายของดอกเตอร์ ได้ออกมาเปิดเผยเรื่องราวดังกล่าวเมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมานี้เอง
“พ่อเป็นคนที่ถ่อมตัวมากๆ เขามักจะทุ่มเทตัวเองให้กับงาน และครอบครัว เรารู้สึกภูมิใจในตัวพ่อมากๆ เชื่อว่าทุกคนจะจดจำเขาไปตลอดกาล” Chris กล่าว
นี่คือเรื่องราวของหนึ่งในสุดยอดนักวิทยาศาสตร์ของโลกเรา ขอให้ท่านดอกเตอร์หลับให้สบายนะครับ
Leave a Reply
You must be logged in to post a comment.