เปิดตำนาน “กะโหลกคริสตัลแห่งมายา” วัตถุโบราณลึกลับหรือแค่ของปลอมจากยุควิกตอเรีย

เคยได้ยินเรื่องตำนานกะโหลกคริสตัลของเผ่ามายากันไหม มันเป็นวัตถุโบราณรูปร่างเหมือนกะโหลกใสที่ลือกันว่าถูกพบโดยพ่อลูกบุญธรรม Anna และ Frederick Mitchell-Hedges ในพีระมิดมายาที่ป่าในประเทศเบลีซ

 

 

ตั้งแต่ที่ถูกพบมากะโหลกคริสตัลของตระกูล Mitchell-Hedges ก็กลายเป็นสิ่งที่มีชื่อเสียงมาก เพราะไม่เพียงแต่ความใสและน่าพิศวงราวกับไม่ได้สร้างขึ้นโดยมนุษย์ของมันเท่านั้น แต่กะโหลกคริสตัลชิ้นนี้ยังเต็มไปด้วยตำนานเรื่องเล่า ทั้งที่เกี่ยวกับคำสาป และพลังเหนือธรรมชาติอีกด้วย

Frederick บอกว่ากะโหลกที่เขาและลูกสาวพบนั้นมีพลังประหลาด ใครก็ตามที่หัวเราะเยาะมันจะต้องพบกับโชคร้ายแสนสาหัส ไม่ว่าจะเป็นจากความตาย หรืออาการป่วยที่ไม่สามารถรักษาได้

เท่านั้นยังไม่พอเพราะกะโหลกคริสตัลชิ้นนี้ยังถูกอ้างว่าเป็นหนึ่งในกะโหลก 13 ชิ้นที่หากนำมารวมกันจะมอบความรู้ที่เป็นกุญแจสู่ “ความอยู่รอดของมนุษย์” หรือไม่ก็ “การล่มสลายของมนุษยชาติ” ตามคำทำนายของชนพื้นเมืองอเมริกาเลยด้วย

 

Anna Mitchell-Hedges เคยเดินทางไปในหลายๆ ประเทศ เพื่อเผยแพร่เรื่องกะโหลกคริสตัลที่พบ

 

ในปัจจุบันมีกะโหลกคริสตัล 2 ชิ้นที่อ้างตัวว่าเป็นของจริง ซึ่งชิ้นหนึ่งถูกเก็บไว้ในพิพิธภัณฑ์อังกฤษที่ลอนดอน และอีกชิ้นหนึ่งอยู่ที่พิพิธภัณฑ์ Musee du Quai Branly ในปารีส โดยทั้งสองแห่งถกเถียงกันเรื่อยมาว่าชิ้นไหนกันแน่ที่เป็นของจริง

แน่นอนว่าสิ่งลี้ลับย่อมมาคู่กับความพยายามในการพิสูจน์ความจริง ทำให้ตลอดช่วงเวลาที่กะโหลกคริสตัลถูกนำแสดง ก็มีคนมากมายพยายามตรวจสอบที่มาของกะโหลกคริสตัลในพิพิธภัณฑ์ทั้งสองอยู่เสมอๆ

 

กะโหลกคริสตัลของอังกฤษ (ซ้าย) และกะโหลกคริสตัลของฝรั่งเศส (ขวา)

 

โดยหนึ่งในบรรดาการตรวจสอบกะโหลกคริสตัล การตรวจสอบที่น่าสนใจที่สุดจะเป็นของสถาบันสมิธโซเนียนแห่งสหรัฐอเมริกาเมื่อปี 2008

เพราะจากการตรวจสอบของสถาบัน พวกเขาพบว่าเป็นไปได้ยากมากที่กะโหลกคริสตัล ทั้งของพิพิธภัณฑ์ที่อังกฤษ และฝรั่งเศส จะเป็นของที่มาจากสมัยมายาจริงๆ เนื่องจากงานฝีมือที่ปรากฏบนหัวกะโหลกมีความประณีตผิดกับงานฝีมืออื่นๆ ในยุคเดียวกัน แถมในสมัยนั้นไม่มีงานฝีมือชิ้นไหนเลยที่เป็นคริสตัล

เท่านั้นยังไม่พอ เพราะเมื่อตามรอยประวัติการซื้อขาย นักวิทยาศาสตร์ยังพบอีกว่า กะโหลกคริสตัลในพิพิธภัณฑ์ทั้งสองมีที่มามาจากพ่อค้าจากช่วงศตวรรษที่ 19 คนเดียวกัน ซึ่งมีนามว่า Eugene Boban

 

Eugene Boban พ่อค้าจากช่วงศตวรรษที่ 19

 

แม้ว่าทั้งสองพิพิธภัณฑ์จะไม่ได้เป็นการซื้อกะโหลกคริสตัลจากตัว Eugene เองก็ตาม แต่ในบันทึกเมื่อปี 1890 ก็มีบันทึกของกะโหลกคริสตัลแบบที่เหมือนกันในพิพิธภัณฑ์เขียนเอาไว้อย่างชัดเจน ทำให้แนวคิดที่ว่ากะโหลกคริสตัลเพิ่งจะสร้างขึ้นเมื่อยุควิกตอเรียมีน้ำหนักมากขึ้นอย่างเห็นได้ชัด

ดังนั้นจึงไม่ใช่เรื่องแปลกเลยที่เมื่อสถาบันสมิธโซเนียนนำกะโหลกที่พบไปผ่านกระบวนการตรวจสอบทางวิทยาศาสตร์จริงๆ ทางนักวิทยาศาสตร์จะพบว่ากะโหลกคริสตัลทั้งหมด (รวมไปถึงกะโหลกคริสตัลชิ้นอื่นๆ ที่พบด้วย) ล้วนแต่ถูกสร้างขึ้นในศตวรรษที่ 19 ทั้งนั้น ซึ่งแน่นอนว่าไม่เก่าพอที่จะเป็นของเผ่ามายาหรือแม้แต่แอซเท็กด้วยซ้ำ

 

 

อย่างไรก็ตามยังมีคนจำนวนมากที่ไม่เชื่อถือในการทดสอบนี้ และคิดว่ากะโหลกคริสตัลของจริงนั้น จะยังต้องถูกซ่อนอยู่ที่ไหนสักแห่งบนโลกอย่างแน่นอน

 

ที่มา allthatsinteresting และ national-paranormal-society

Comments

Leave a Reply