คนจริ๊ง!! หนุ่มสิงคโปร์ถีบ “ลองบอร์ด” ใช้เวลา 722 วัน ลุยเที่ยว 32 ประเทศรอบโลก

ก่อนหน้านี้ #เหมียวเวจจี้ ได้นำเสนอเรื่องราวของเหล่านักเดินทางที่เลือกใช้พาหนะคู่ใจชนิดต่างๆ ออกเดินทางรอบโลกมาแล้วมากมาย ซึ่งก็มีทั้งชาวไทยและชาวต่างประเทศ

(อ่านข่าวเก่า: สาวไทย ลาออกจากงาน คว้ามอเตอร์ไซค์ 250 ซีซี. เที่ยวรอบโลก ด้วยตัวคนเดียว
สาวขับรถเวสป้าระยะทางกว่า 44,000 กิโลเมตร ใช้เวลานาน 2 ปี เดินทางจากสิงคโปร์ไปยุโรป)

และคราวนี้เราก็มีเรื่องราวการเดินทางคล้ายกันมาฝากเเพื่อนๆ อีกเช่นเคย แต่ต้องบอกก่อนเลยว่ามันค่อนข้างจะแตกต่างจากเรื่องราวก่อนหน้าสักเล็กน้อย

เพราะหนุ่มคนที่เรากำลังจะพาทุกคนไปรู้จักนั้นเขาเลือกใช้พาหนะง่ายๆ อย่างลองบอร์ด ออกเดินทางยังไงล่ะ!!

 

 

Adrian Oh หนุ่มชาวสิงคโปร์วัย 36 ปี ผู้เลือกใช้ลองบอร์ด ยานพาหนะที่ไม่มีเครื่องยนต์ และอาศัยเพียงเพียงแค่แรงถีบจากเท้าในการเดินทางรอบโลก

เขาเริ่มออกเดินทางจากสิงคโปร์เมื่อวันที่ 11 ก.พ. 2017 และระยะเวลากว่า 722 วันออกเดินทางไปใน 32 ประเทศทั่วโลก ทั้งในทวีปเอเชีย อเมริกาเหนือ อเมริกาใต้ และยุโรป

 

 

Adrian หัดเล่นลองบอร์ดครั้งแรกเมื่อประมาณ 5 ปีที่แล้ว ซึ่งแฟนเก่าเป็นคนสอน และใช้มันเดินทางไปทำงานทุกวันหลังจากที่รถจักรยานถูกขโมยไป

“ผมชื่นชอบการใช้ลองบอร์ด เพราะมันให้ความรู้สึกเหมือนกับว่าเท้าของผมได้สัมผัสพื้นจริงๆ การนั่งรถบัสมันน่าเบื่อสำหรับผม และมันรู้สึกไม่เป็นอิสระ” Adrian ให้สัมภาษณ์

 

 

คลิปวิดีโอการเดินทางจากประเทศเปรูไปโบลิเวียร์ด้วยสเก็ตบอร์ดที่ถูกโพสต์ลงยูทูปเมื่อปี 2013 สร้างแรงบันดาลใจให้กับการเดินทางของ Adrian ในครั้งนี้

เขาใช้เงินที่สะสมจากการทำงานมานานกว่า 10 ปีเป็นทุนในการเดินทาง ซึ่งจุดมุ่งหมายครั้งนี้คือการเปิดประสบการณ์กับผู้คนในสถานที่ต่างๆ รอบโลก

เพราะสำหรับเขาแล้ว โลกที่มองเห็นจากสื่อนั้นช่างเป็นโลกที่เต็มไปด้วยความโหดร้าย เศร้า และดูหม่นหมอง

แต่ทว่าเมื่อออกเดินทาง หนุ่มวัย 36 ปีกลับพบว่ามันช่างห่างไกลกับสิ่งที่เขาเคยเห็นอย่างมาก

 

 

“มันตรงกันข้ามอย่างมาก ผมได้รับทั้งความอบอุ่นและการต้อนรับเป็นอย่างดีจากผู้คนในประเทศที่ขึ้นชื่อว่าอันตรายมากที่สุดในโลก

ตอนผมเดินทางถึงประเทศเอลซัลวาดอร์และฮอนดูรัส ซึ่งก่อนหน้านั้นผมรู้จักพวกเขาในฐานะเมืองหลวงแห่งการฆาตกรรม แต่ผมกลับได้รับการต้อนรับอย่างดีจากเจ้าหน้าที่ และคนท้องถิ่น” Adrian ให้สัมภาษณ์

 

 

เส้นทางการเดินทางของ Adrian แบ่งออกเป็น 3 ช่วงด้วยกัน

ช่วงแรก ก.พ.- มิ.ย. 2017 เริ่มต้นจาก สิงคโปร์, ไทย, กัมพูชา, เวียดนาม, จีน, มาเก๊า และฮ่องกง

ช่วง 2 มิ.ย.-ก.ย. 2017: เยอรมนี, เนเธอแลนด์, เบลเยียม, สเปน

และช่วงที่ 3 ก.ย. 2017- ธ.ค.2018 :แคนาดา, สหรัฐฯ, เม็กซิโก, บราซิล, กัวเตมาลา, เอลซัลวาดอร์, ฮอนดูรัส, นิการากัว, คอสตาริกา, ปานามา, โคลอมเบีย, เอกวาดอร์, เปรู, โบลิเวีย, อาร์เจนตินา, ปารากวัย, บราซิล, ชิลี, กลับมาอาร์เจนตินาอีกครั้ง และเข้าอุรุกวัย

 

 

ในแต่ละวัน Adrian จะเดินทางด้วยลองบอร์ดประมาณ 100 กม. และจะหยุดพักทุกๆ 10 กม. ซึ่งในบางครั้งที่เขาไม่สามารถใช้ลองบอร์ดได้ ก็ต้องอาศัยการเดินทางแบบอื่นแทน

นอกจากลองบอร์ดแล้ว สิ่งหนึ่งที่ Adrian ใช้ในการเดินทางครั้งนี้ด้วยก็คือ รถเข็นคู่ใจที่เปรียบเสมือนบ้านเคลื่อนที่หลังเล็กๆ ของเขา ซึ่งบรรจุอาหารแห้ง น้ำดื่ม และอุปกรณ์ฉุกเฉินสำหรับใช้ในยามจำเป็น

 

 

อย่างที่เราทราบกันเป็นอย่างดีว่า ในทุกการเดินทางนั้นย่อมมีอุปสรรค์ และตลอดเส้นทางที่ผ่านมานั้น Adrian ก็ต้องเผชิญกับมันด้วยเช่นกัน ไม่ว่าจะเป็น การต้องยกเลิกการเดินทางในพื้นที่ Darién Gap พื้นที่อันตรายและเต็มไปด้วยอิทธิพลของพ่อค้ายาเสพติด หรือศัตรูตัวร้ายอย่างน้องหมาที่คอยไล่งับ

 

.

https://www.instagram.com/p/BnWw9yRAKBb/?utm_source=ig_embed

.

 

ชายหนุ่มเล่าวว่าเขาใช้เงินในการเดินทางครั้งนี้ราวๆ 30,000 ดอลลาร์สิงคโปร์ หรือประมาณ 700,000 บาทด้วยกัน ซึ่งเป็นเงินส่วนตัวของเขาประมาณ 25,000 ดอลลาร์สิงคโปร์ (ประมาณ 578,000 บาท และได้รับบริจาคอีกประมาณ 5,000 ดอลลาร์สิงคโปร์ (ประมาณ 122,000 บาท)

Adrian กลับถึงบ้านเกิดเมื่อวันที่ 2 ก.พ. ที่ผ่านมา และตอนนี้เขากำลังวางแผนที่จะเขียนหนังสือเกี่ยวกับการเดินทางรอบโลกของเขา พร้อมกับวางแผนสำหรับอนาคตข้างหน้าด้วย

 

 

“ผมไม่มีโอกาสรู้เลยว่าอนาคตข้างหน้าจะเป็นอย่างไร เมื่อผมกลับมาบ้านผมพบว่าตัวเองผ่านสถานการณ์ท้าทายมามากมาย แต่ไม่มีอะไรที่ทำให้ผมกลัวไปมากกว่าต้องการหางานในอนาคต และต้องทนอยู่กับมัน

การเดินทางได้พาผมหนีออกจากโลกแห่งความเป็นจริง และผมต้องผเชิญหน้ากับความกลัวของในไม่ช้า สิ่งที่ผมต้องการคือการเดินทางรอบโลกด้วยสเก็ตบอร์ด และมันก็เป็นหนึ่งในความสำเร็จที่ไม่สามารถมีใครทำได้

ตอนนี้ผมได้ทำตามความฝันแล้ว และผมไม่ต้องการอะไรไปมากกว่านี้แล้ว” Adrian กล่าวทิ้งท้าย

 

ที่มา mothership, World On Board, world_on_board