หนุ่มแชร์ประสบการณ์ ‘อั่งเปาบอกเลิก’ จากเหตุให้พ่อแม่ฝ่ายหญิงน้อยเกิน จนสาวไม่พอใจ

เทศกาลแห่งความสุขของชาวจีนและบุคคลที่มีเชื้อสายจีน ในช่วงปีใหม่จีนหรือตรุษจีนนี้ ตามประเพณีดังกล่าวก็จะมาพร้อมกับการให้ซองแดงแห่งความสุข หรือที่เรียกกันว่าอั่งเปา ซึ่งภายในนั้นก็จะเป็นเงินสดที่มอบให้กับผู้รับไป

แต่ว่ากันด้วยเรื่องของความเหมาะสมของจำนวนเงินในอั่งเปา ก็กลายมาเป็นสิ่งที่ทำให้รู้สึกหนักใจของทั้งผู้ให้และผู้รับไม่น้อย จนเกิดเป็นประเด็นขึ้นมาว่า ควรให้เป็นจำนวนเท่าไหร่ถึงจะเหมาะสม?

 

 

จากการรายงานของสื่อต่างประเทศ ระบุว่าหนุ่มรายหนึ่งจากไต้หวัน กับแฟนสาวที่เพิ่งจะคบกันได้เพียงสองเดือน กำลังจะเดินทางไปพบกับพ่อแม่ของฝ่ายหญิงในช่วงตรุษจีน วันที่ 4 กุมภาพันธ์ 2019 และฝ่ายแฟนสาวได้ถามว่าใส่เงินไปในอั่งเปาเท่าไหร่?

ฝ่ายชายตอบไปว่า ซองละ 3,600 ดอลลาร์ไต้หวัน (3,650 บาท) ซึ่งเมื่อรวมกันทั้ง 2 ซองจะเป็นเงินจำนวน 7,200 ดอลลาร์ไต้หวัน แต่ทว่าแฟนสาวกลับรู้สึกไม่พอใจกับจำนวนเงินดังกล่าว เพราะรู้สึกว่าน้อยเกินไปสำหรับพ่อแม่ของเธอ…

 

ภาพการพูดคุยของทั้งสองฝ่าย

 

“นี่ตรุษจีนทั้งทีนะ เธอไม่คิดหน่อยเหรอว่าจำนวนแค่นี้มันน้อยเกินไป ฉันหวังว่าเธอจะจริงกับครอบครัวของฉันมากกว่านี้ จะมีญาติหลายคนกลับมาเยี่ยมที่บ้านของฉัน เธอควรจะไว้หน้าพ่อแม่ของฉันหน่อย มันอาจจะช่วยเราได้ในอนาคตนะ” ข้อความตอบกลับของฝ่ายหญิง

 

 

เมื่อรู้ว่าแฟนสาวไม่พอใจกับจำนวนเงินในซองอั่งเปา เขาจึงถามว่าเท่าไหร่ถึงจะเหมาะสม เธอตอบกลับว่าควรจะใส่ซองละ 6,600 ดอลลาร์ไต้หวัน (ประมาณ 6,700 บาท)

ซึ่งนับว่าเป็นจำนวนที่เพิ่มขึ้นอีกเท่าตัว จนทำให้เกิดเป็นการทะเลาะกัน แม้ฝ่ายชายจะพยายามใช้เหตุผลมากแค่ไหนก็ตาม

 

 

เนื่องจากสถานะทางการเงินของทั้งคู่ไม่ได้ดีมากนัก เพราะฝ่ายหญิงไม่เคยเก็บเงินอยู่ มักจะใช้จนหมดไปทุกๆ เดือน จนฝ่ายชายต้องมาใส่เงินในซองอั่งเปาเพิ่มเพื่อไว้หน้าพ่อแม่เธอ

เธอจึงถามอีกครั้งว่า “คิดว่าเงินที่จะให้พ่อแม่ของฉันแค่นั้นมันพอเหรอ?” จนฝ่านชายตอบกลับ “ก็เหมาะสมแล้วนะ ดูเหมือนว่ามุมมองในชีวิตของเราจะต่างกัน ถ้าหากว่ายังเป็นแบบนี้ต่อไป เราคงไม่มีความสุขแน่ๆ”

 

 

แฟนสาวโมโหมากที่เขาตอบกลับมาแบบนี้ จึงยื่นคำขาดว่าเลิกกันดีกว่า ฝ่ายชายก็ทำได้เพียงตอบกลับไปว่า “ขอเธอเจอคนที่เหมาะสมกว่า”… ซึ่งชาวเน็ตต่างมองว่าฝ่ายหญิงนั้นเยอะเกินเหตุ ทั้งๆ ที่ยังไม่ได้แต่งงานกันเลย

 

ที่มา: ettoday, nownews, worldofbuzz


Tags:

Comments

Leave a Reply