เมื่อเดือนตุลาคม ปี 2017 ที่ผ่านมา ค่ายเกมชื่อดังอย่าง ‘Epic Games‘ ผู้พัฒนาเกมดังอย่าง ‘Fortnite’ ได้มีการฟ้องร้องเด็กชายอายุ 14 ปี นามว่า Caleb Rogers เนื่องจาก เด็กชายคนนี้ได้ใช้วิธีการโกงในวิดีโอเกมดังกล่าว
เกม Fortnite เป็นเกมที่พัฒนา และเปิดตัวขึ้นในปี 2017 โดย Epic Games ซึ่งเป็นเกมแนวเดินหน้ายิงรวมถึงดักซุ่มโจมตีทีมอื่นๆ เพื่อให้เหลือเป็นทีมสุดท้ายที่อยู่รอด โดยสามารถเล่นได้ทั้งบนคอมพิวเตอร์ แท็บเล็ต และมือถือ ซึ่งในช่วงสูงสุด มียอดผู้เล่นมากถึง 8.3 ล้านคนออนไลน์ทั่วโลก
ตัวคาแร็คเตอร์จากเกม ‘Fortnite’
ด้วยความที่เกมนี้ทำรายได้ถล่มทลาย จากปีที่เปิดตัวจนถึงปัจจุบัน คาดว่าได้มีผู้เล่นดาวน์โหลดไปแล้วกว่า 125 ล้านคนทั่วโลก อีกทั้งมีคนดาวน์โหลดซอฟต์แวร์โกง เป็นตัวช่วยในการเล่นเกมตามมาเป็นจำนวนมากเช่นกัน
ทางค่ายเกมเองได้อธิบายว่ารูปแบบการโกงมีทั้ง การใช้ความสามารถในการมองเห็นทะลุผ่านจุดต่างๆ , การเคลื่อนย้ายตัวละครไปยังแต่ละที่ได้ รวมไปถึง การสวมรอยบัญชีคนอื่นเล่นเกม
ทางค่าย Epic Games ได้ให้เหตุผลในการฟ้องร้องว่า เด็กชาย Caleb ได้ดาวน์โหลดซอฟต์แวร์โกงขึ้นมา และติดตั้งลงไปในเกมเพื่อให้ทีมของตนชนะในแต่ละครั้ง… รวมไปถึงการที่เด็กชายได้ลงวิดีโอบนยูทูป ว่า “กำลังแฮกกิ้ง Fortnite มาจอยกันได้”
จากการฟ้องร้องดังกล่าวผู้เป็นแม่ของเด็กได้ให้การว่า “บริษัทนี้กำลังอยู่ในกระบวนการฟ้องเด็กคนหนึ่งที่อายุ 14 ปีเท่านั้น” ส่วนทางตัวเด็กชายเองได้ใช้ช่องยูทูปของเขาในการพูดถึงคดีครั้งนี้ว่า “พูดจริงๆ เลยนะ นี่เป็นอะไรที่งี่เง่าที่สุดแล้วล่ะ”
ไม่เพียงแค่ทางค่าย Epic ที่มีการฟ้องร้องแนวนี้ขึ้นเท่านั้น ใน 2017 ยังมีค่ายเกมดังอย่าง Blizzard ที่ได้เรียกค่าเสียหายถึง 8 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ราว 251 ล้านบาท) จากบริษัทแห่งหนึ่งในเยอรมนี ที่ให้บริการซอฟต์แวร์ไว้โกงสำหรับผู้เล่นด้วย
ถึงแม้ว่าในต่างประเทศ อย่างสหรัฐอเมริกาเอง ก็ยังเป็นการยากที่ทางค่ายเกม จะตั้งข้อหาใครซักคนเพียงเพราะ ‘โกงในเกม’ แต่ส่วนใหญ่ทางค่ายเกมมักให้เหตุผลว่าเป็นเรื่องของการละเมิดลิขสิทธื์ในการดัดแปลงตัวเกมในการฟ้องร้องแทน
ที่มา: 1843magazine, @TheEconomist
Leave a Reply
You must be logged in to post a comment.