“การคลุมถุงชน” โดยคนในครอบครัว มันคือสิ่งที่ยังคงเกิดขึ้นอยู่บ้างในหลายๆ แห่ง เช่นเดียวกันกับสิ่งที่หญิงสาวชาวออสเตรเลียคนนี้ต้องเผชิญ จนกลายเป็นบาดแผลที่ฝังลึกอยู่ในใจเธอเรื่อยมา
Tasneem Fakhoury ปัจจุบันอายุ 20 ปี เธอได้เล่าประสบการณ์อันน่าเศร้าในครั้งที่เธอยังอายุเพียงแค่ 14 ปี เธอถูกคนในครอบครัวบอกให้นั่งเครื่องบินไปประเทศเลบานอน เพื่อแวะไปเยี่ยมหาคุณตาคุณยาย
Tasneem หญิงสาวผู้ผ่านช่วงเวลาอันเลวร้ายมาได้
เธอเดินทางจากเมืองเมลเบิร์น ไปยังเมืองตริโปลี ในช่วงวันหยุด แต่คนที่มารอรับเธออยู่นั้นกลับไม่ใช่ตายายอย่างที่ควรจะเป็น กลับกลายเป็นชายหนุ่มวัย 24 ปีเสียแทน
ในตอนนั้นเองที่ทำให้เธอได้รู้ว่าเธอถูก “คลุมถุงชน” ให้แต่งงานกับชายที่อายุมากกว่าเธอถึง 10 ปี ซึ่งนี่เป็นเรื่องที่เธอไม่เคยรับรู้มาก่อนเลย
ด้วยวัยเพียงแค่ 14 ปีทำให้ในตอนแรกเธอยังไม่คิดมากอะไรเกี่ยวกับการถูกบังคับให้แต่งงาน เธอยังคิดแค่ว่าคงจะได้สวมชุดเจ้าสาวสีขาว และใช้ชีวิตร่วมกับสามีราวกับเจ้าหญิงในเทพนิยาย
ทว่าความเป็นจริงช่างโหดร้ายมากเกินกว่าที่เธอเคยคาดคิดเอาไว้ เพราะสามีของเธอคนนี้คือชายผู้มีประวัติการใช้ความรุนแรง ก่ออาชญากรรม และติดยามาก่อน
สิ่งที่เธอต้องเจอในแต่ละวันจึงกลายเป็นการถูกทำร้ายร่างกาย ก่อนที่เขาจะปั่นหัวเธอด้วยคำว่ารัก แล้วก็ทำร้ายร่างกายเธออีก สลับกันอยู่อย่างนั้นซ้ำไปซ้ำมา
แน่นอนว่าเธอคงไม่ทนที่จะใช้ชีวิตอยู่อย่างนั้นแน่นอน แต่เพื่อนบ้านหรือคนอื่นๆ รอบตัวเธอในตอนนั้นกลับไม่มีใครให้การช่วยเหลือ พากันหัวเราะเยาะและบอกกับเธอว่าเธอไม่มีทางหนีไปไหนได้
จนกระทั่งวันเวลาล่วงเลยไปนานกว่า 4 ปี ในที่สุดเธอก็สามารถหนีรอดจากชีวิตอันแสนเลวร้ายนั้นมาได้ ด้วยความช่วยเหลือจากพ่อแท้ๆ ของเธอ และไม่ได้รับการติดต่อจากสามีคนนั้นอีกเลยนับตั้งแต่เดือนสิงหาคม 2018
ปัจจุบัน Tasneem จึงกลายเป็นหนึ่งในผู้นำการรณรงค์เรียกร้องอิสรภาพของเจ้าสาวที่ถูกคลุมถุงชน โดยหวังว่าจะไม่มีใครต้องมาเจอเหมือนกับสิ่งที่เธอเคยได้รับมาอีกต่อไปแล้ว
Leave a Reply
You must be logged in to post a comment.