เคยได้ยินเรื่องราวของ Anatoly Moskvin กันมาก่อนไหม เขาคือนักข่าว นักโบราณคดี และนักภาษาศาสตร์ชาวรัสเซีย เจ้าของความสามารถในการพูดภาษาต่างประเทศได้มากมายถึง 13 ภาษา
แต่แม้ว่าจะมีดีกรีความสามารถมากมายเพียงไหน สิ่งที่ทำให้ Anatoly Moskvin โด่งดังขึ้นมากลับไม่ใช่ความสามารถของเขา แต่เป็นเหตุการณ์ที่เขาโดนจับในปี 2011 จากการที่เขานำร่างของหญิงสาว 29 คนมาทำเป็นมัมมี่เก็บไว้ในอะพาร์ตเมนต์ของตัวเองต่างหาก
โดยจากการรายงานของตำรวจมัมมี่ของเด็กผู้หญิงที่พบในบ้านของ Moskvin นั้นมีอายุตั้งแต่ 3-25 ปี และอยู่ในสภาพที่ถูกตกแต่งดูแลอย่างดี จนแม้กระทั่งครอบครัวและคนใกล้ชิดของเขาหลายๆ คน คิดว่ามัมมี่เหล่านั้นเป็นเพียงแค่ตุ๊กตาเลยด้วยซ้ำ
จากคำบอกเล่าของ Moskvin เอง งานอดิเรกสุดแปลกของเขามีจุดเริ่มต้นขึ้นจากเหตุการณ์ในปี 1979 ซึ่งเขากำลังอายุได้เพียง 13 ปี โดยในเวลานั้นเขาได้ไปพบกับกลุ่มคนที่กำลังจัดพิธีศพของเด็กหญิงวัย 11 ปี และก็เป็นในตอนนั้นเองเขาก็ถูกบังคับให้จูบกับร่างไร้วิญญาณของเด็กในพิธี
แต่แทนที่เหตุการณ์ในวันนั้นจะทำให้เขาหวาดกลัวศพ มันกลับทำให้ Moskvin หลงรักในร่างไร้วิญญาณของเด็กสาวแทน เขามักจะเดินทางไปเที่ยวเล่นตามสุสานตั้งแต่วันนั้นมา และเมื่อโตขึ้นมาอีกหน่อยเขาก็เริ่มให้ประโยชน์จากการเป็นนักโบราณคดีในการแอบขุดศพมาเก็บไว้
ตั้งแต่ปี 2005 เป็นต้นมา Moskvin ก็เริ่มสะสมศพจนเป็นคอลเลคชั่น จนทำให้คนในเมืองเริ่มสงสัยกันว่าศพที่ฝังไว้หายไปไหนในปี 2009 และนำไปสู่การจับกุมตัว Moskvin เมื่อปี 2011 ในที่สุด
แน่นอนว่า Moskvin รับสารภาพการกระทำทั้งหมดของเขา อย่างไรก็ตามชายหนุ่มนั้นได้ให้เหตุผลในการกระทำของเขาว่า “พวกคุณ (พ่อแม่ของเด็กที่โดนขโมยศพ) ทิ้งลูกๆ ไปแล้ว ผมก็แค่เอาพวกเธอกลับบ้านมาให้ความอบอุ่นเท่านั้นเอง”
นับว่ายังเป็นเรื่องดีที่ Moskvin เพียงแค่ขุดศพมาเก็บไว้เท่านั้นและไม่ได้สังหารเด็กๆ ด้วยตนเองอย่างที่หลายๆ คนตั้งข้อสงสัย ดังนั้นในท้ายที่สุด เขาจึงถูกศาลตัดสินว่ามีอาการทางจิต และถูกส่งตัวไปรักษาที่โรงพยาบาลจิตเวชแทนที่จะเป็นเรือนจำ
และเมื่อปี 2018 ที่ผ่านมานี้เอง Anatoly Moskvin ก็ได้รับอนุญาตให้กลับไปรักษาตัวต่อที่บ้านแล้ว แม่ว่าจะมีพ่อแม่ของเด็กๆ ที่เคยถูกขโมยศพออกมาแสดงความไม่สบายใจเป็นจำนวนมากก็ตาม
ที่มา allthatsinteresting, news และ mirror
Leave a Reply
You must be logged in to post a comment.