ตั้งแต่ในอดีตมาเมื่อมีการจัดงานศพขึ้น คนเราก็มักจะใส่สิ่งของที่อยากให้คนที่เรารักนำไปใช้ในโลกหลังความตายไปด้วย และในบางวัฒนธรรมเองของเหล่านั้นก็มักจะถูกทำให้อยู่ในสภาพที่ “ตาย” คล้ายกับเจ้าของด้วย
เรื่องราวแบบนี้โดยมากแล้วจะออกมาให้เห็นบ่อยๆ ในรูปแบบของแจกันหรือไหที่ถูกทุบทำลาย แต่ในบางครั้งเราก็อาจจะได้เห็นของอย่างดาบของนักรบถูกทำลายเพื่อนำไปฝังกับเจ้าของด้วยเช่นกัน
ว่ากันว่าการทำลายสิ่งของก่อนทำไปฝังน่าจะเกิดขึ้นตั้งแต่ในสมัยยุคสัมฤทธิ์ แต่หากจะพูดถึงวัฒนธรรมที่ทำลายดาบทิ้งก่อนนำไปฝังที่มีหลักฐานการค้นพบมากที่สุด เราก็คงต้องพูดถึงวัฒนธรรมแถบทะเลอีเจียนและเซลติกยุโรปเสียเป็นส่วนใหญ่
นั่นเพราะในพื้นที่แถบนี้มักจะมีการศพหลุมศพเก่าแก่จากยุคเหล็กเมื่อ 1100-700 ปีก่อนคริสตกาล ที่มีดาบซึ่งถูกทำให้หักเป็นสองท่อน หรือบิดงอจนโค้งเป็นขด (แล้วแต่คุณภาพดาบ) ฝังเอาไว้พร้อมๆ กับมนุษย์ผู้เป็นเจ้าของอยู่บ่อยๆ
เอาเข้าจริงๆ ไม่มีการบันทึกเอาไว้สักเท่าไหร่ว่าทำไมอาวุธหรือสิ่งของเหล่านี้จึงถูกทำลายก่อนที่จะนำไปฝัง ดังนั้นจึงไม่ใช่ว่าจะไม่มีความเป็นไปได้เลยที่ของเหล่านี้จะถูกทำลายเพียงเพื่อป้องกันคนมาขุดของในสุสานออกไปใช้ หรือไม่ก็ทำไปเพียงเพื่อให้สิ่งเหล่านี้ยัดลงหลุมศพได้ง่ายขึ้น
แนวคิดที่ว่าสิ่งเหล่านี้ถูกทำลายเพื่อป้องกันการขโมยสุสานนับว่าเป็นทฤษฎีที่มีเหตุมีผลค่อนข้างมาก เพราะดาบในสมัยก่อนนับว่าเป็นของที่มีค่ามาก ซึ่งมักถูกใช้งานโดยผู้มีฐานะเท่านั้น ดังนั้นจึงไม่แปลกที่คนจะลงทุนขุดมันขึ้นมาจากหลุมศพเพื่อนำไปขายต่อไป
แถมหากมองย้อนไปในช่วงปลายยุคสัมฤทธิ์ แถวๆ ประเทศไอร์แลนด์เองก็มักจะมีการทำลายเครื่องประดับจนคุณค่าของมันลดลงก่อนที่จะนำไปฝังเช่นกัน
ถึงอย่างนั้นก็ตามจากการที่คนสมัยก่อนมักจะมองว่าสิ่งของมีจิตวิญญาณ แถมยังตั้งชื่อให้ในบางครั้งก็ทำให้ทฤษฎีที่ว่าของเหล่านี้ถูก “ฆ่า” ตามเจ้าของไปได้รับความเชื่อถือมากกว่าทฤษฎีอื่นค่อนข้างมาก และน่าจะเป็นเหตุผลหลักๆ ที่คนเราจะทำลายของก่อนนำไปฝังกับผู้เสียชีวิต
แต่ไม่ว่าแท้จริงแล้วคนสมัยก่อนจะมีเหตุผลอย่างไรในการทำลายข้าวของก่อนฝัง ประเพณีเหล่านี้ก็ช่วยแสดงให้เห็นถึงวัฒนธรรมและความเชื่อของผู้คนในอดีตได้เป็นอย่างดี
ที่มา ancient-origins และ balkancelts
Leave a Reply
You must be logged in to post a comment.