เพื่อนๆ ส่วนใหญ่น่าจะคุ้นเคยกับเรื่องของ Hachiko เป็นอย่างดี มันคือสุนัขอาคิตะผู้ซื่อสัตย์จากญี่ปุ่นซึ่งรอเจ้านายผู้ล่วงลับไปที่สถานีรถไฟนานถึง 9 ปี เรื่องของมันโด่งดังจนถุกสร้างเป็นภาพยนตร์ด้วย
ในประเทศสก็อตแลนด์เองก็มีเรื่องราวที่คล้ายกันอยู่เหมือนกัน ซึ่งก็คือเรื่องราวของเจ้า Bobby สุนัขสายพันธุ์สกายเทอร์เรียผู้เฝ้ารอเจ้านายเช่นกัน แถมยังรอนานถึง 14 ปีด้วย
ย้อนกลับไปเมื่อปี 1850 นาย John Gray และครอบครัวได้ย้ายเข้ามาอยู่ที่เมือง Edinburgh และเริ่มต้นงานเป็นตำรวจตรวจตราครวามเรียบร้อยในตอนกลางคืน
ตอนที่เขาเริ่มงานใหม่นั่นเอง เขาก็ได้รับเลี้ยง Bobby มาเป็นคู่หูไว้ออกเดินตรวจตราด้วย ตั้งแต่นั้นเป็นต้นมาเขาและเจ้าหมาก็กลายเป็นคู่หูที่คนแถบนั้นเห็นกันเป็นประจำ
ต่อมาเมื่อปี 1858 นาย Gray ก็ล้มป่วยและเสียชีวิตไป แล้วร่างของเขาถูกก็นำไปฝังไว้ที่สุสาน Greyfriars Kirkyard
และแม้ว่าเจ้านายจะตายไปแล้ว Bobby ก็ยังคงซื่อสัตย์ต่อเขาเพียงผู้เดียว มันได้ตามไปนั่งเฝ้าที่หลุมศพของ Gray เป็นประจำทุกวัน โดยแทบไม่ยอมจากไปไหนเลย
ชาวเมืองเคยพยายามกันไม่ให้มันเข้าไปในนั้นหลายครั้งแล้ว แต่ก็ไม่เคยเป็นผลสำเร็จเนื่องจากเจ้าหมาจะหาวิธีเข้าไปนั่งอยู่หน้าหลุมศพของเจ้านายจนได้ สุดท้ายพวกเขาจึงไม่กีดกันมัน และสร้างที่กำบังเล็กๆ ให้มันตรงนั้นแทน
Bobby จะออกจากสุสานไปเพียงเพื่อกินข้าวเท่านั้น โดยมันจะเดินออกไปที่ร้านกาแฟกับ William Dow ซึ่งเป็นเพื่อนสนิทของเจ้านาย พอกินข้าวเสร็จมันก็จะกลับมานั่งเฝ้าเจ้านายตามเดิม
ชาวเมืองทุกคนชื่นชมความซื่อสัตย์ของเจ้าหมาเป็นอย่างมาก แม้แต่ในปี 1867 ที่มีกฎหมายให้สุนัขทุกตัวต้องลงทะเบียน Sir William Chambers ซึ่งเป็นคนใหญ่คนโตในเมือง ณ ตอนนั้นก็อาสาจะออกค่าป้ายชื่อและค่าลงทะเบียนให้มันด้วย เพื่อไม่ให้มันถูกทางการจับไป
Bobby ไปเฝ้าหลุมศพของเจ้านายอยู่แบบนั้นทุกวัน ไม่ว่าสภาพอากาศจะดีหรือเลวร้ายก็ตาม จนกระทั่งในปี 1872 เมื่อมันเฝ้าเจ้านายได้ 14 ปีเจ้าหมาเองก็จากไปด้วยความชรา
ชาวเมืองจึงได้สร้างอนุสาวรีย์ให้มันไว้ในเมือง เพื่อรำลึกถึงความซื่อสัตย์ที่มันมีต่อเจ้าของ และให้คนรุ่นหลังได้รับรู้เรื่องราวอันน่ายกย่องของมัน
โดยสลักข้อความใต้รูปปั้นของมันไว้ว่า “เพื่อเป็นเกียรติแก่ Greyfrairs Bobby สุนัขผู้ซื่อสัตย์ที่เข้าไปเฝ้าร่างของเจ้านายในสุสาน Greyfrairs และยืนหยัดอยู่จนกระทั่งลมหายใจสุดท้ายในปี 1872”
ปัจจุบันหากเพื่อนๆ ไปเที่ยวในเมือง Edinburgh ก็สามารถไปดูรูปปั้นของมันได้ และก็สามารถไปถ่ายรูปจุดที่มันเดินไปรับประทานอาหารกลางวันทุกวันได้ด้วย
ที่มา: Scotland Welcomes You, Historic UK
Leave a Reply
You must be logged in to post a comment.