พลอยไพลิน ผู้สมัคร ส.ส. สุดเซ็กซี่ แจงไม่ใช่ไซด์ไลน์ พร้อมเตรียมผลักดันอาชีพพริตตี้

จากความเดิมตอนที่แล้ว เราได้พูดถึงคุณ พลอยไพลิน รัตนสเถียร สาวสุดเซ็กซี่ผู้ลงสมัครสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร จังหวัดมหาสารคามแห่งพรรคพลังท้องถิ่นไท

ซึ่งหลังจากได้โพสต์ข่าวของเธอลงในโซเชียลมีเดีย ผู้ชมหลายคนวิพากษ์วิจารณ์เธอ ว่าไม่เหมาะสมกับการเป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรสักเท่าไหร่ เนื่องจากเคยถ่ายภาพแนวเซ็กซี่มาก่อน

ข่าวเก่า: พาชมภาพของ “พลอยไพลิน รัตนเสถียร” ผู้สมัคร ส.ส. สุดเซ็กซี่แห่ง “พรรคพลังท้องถิ่นไท”

จากประเด็นดังกล่าว วันที่ 21 กุมภาพันธ์ 2562 ช่อง Bright TV จึงได้ทำการสัมภาษณ์เธอเกี่ยวกับประเด็นดังกล่าว โดยคุณพลอยไพลิน ก็ได้ให้บอกว่า

“ความรู้สึกตอนแรกคือเสียใจ แต่ตอนนี้เราเหมือนมีแรงฮึด ผลักดันตัวเองมากขึ้นที่จะเข้ามาทำในจุดๆ นี้ เพราะว่าทางพรรคได้ให้โอกาสหนูมาแล้ว

หนูรู้สึกอยากจะทำให้เขาได้เห็นว่าอาชีพของหนูก็ไม่ได้น่ารังเกียจหรือมีผลเสียต่อสังคม อาชีพของหนู ก็เป็นอาชีพที่สุจริต ยิ่งกระแสมีการมองอาชีพหนูในทางลบ มันยิ่งผลักดันให้หนูอยากก้าวเข้ามาในจุดๆ นี้ค่ะ “

คลิปการให้สัมภาษณ์ของพลอยไพลิน จาก Bright TV

และเมื่อถูกถามถึงกระแสที่โซเชียลมีเดียมีต่อเธอ เธอก็ได้บอกว่า “เท่าที่ดูกระแสตอนนี้มีทั้งด้านลบและด้านบวก ในด้านบวกเขาก็มองว่าเราทำอาชีพสุจริต เราเป็นเด็กคนหนึ่งที่ทำเพื่อครอบครัว

เราหาเงิน หาเลี้ยงครอบครัวของเราด้วยอาชีพที่ไม่ได้ทำร้ายใคร ไม่ได้ปล้นหรือชิงทรัพย์ใครเขามา เราทำด้วยแรงกายของเรา

คนอาจจะมองว่าอาชีพที่สวยอย่างเดียว แต่ถ้าได้เข้าทำจริงๆ หนูมองว่าไม่นะ อาชีพหนูต้องมีไหวพริบแก้ปัญหาต่างๆ ต้องมีความสามารถรับแรงกดดันในการทำงานได้ค่อนข้างสูง

ส่วนด้านลบคนจะมองว่าเหมือนไซด์ไลน์ ซึ่งหนูอยากให้เปิดใจว่าไม่ใช่เลยค่ะ อาชีพของหนูไม่ใช่ไซด์ไลน์แน่นอนค่ะ”

พร้อมยังกล่าวถึงเรื่องเตรียมผลักดันอาชีพพริตตี้อีกว่า “หนูอยากผลักดันให้อาชีพพริตตี้ เป็นอาชีพที่อยู่ในทะเบียนอาชีพ สามารถที่จะทำธุรกรรมทางการเงินต่างๆ ได้ไม่ต่างจากอาชีพทั่วไป

สามารถรับรองได้ว่าเป็นอาชีพที่มั่นคง สามารถทำได้ไม่ต่างจากอาชีพอื่นๆ ในสังคมไทยเรา และก็ในส่วนธุรกิจออนไลน์ ก่อนหนูจะมาเป็นพริตตี้หนูเคยทำธุรกิจออนไลน์มาก่อน

หนูก็มองว่ามันเป็นโอกาสหนึ่งที่ทำให้เด็กรู้จักหาเงินด้วยตัวเอง หนูมองว่ามันไม่เสียหายเลยทีจะทำ หนูเลยอยากให้ธุรกิจนี้ก้าวเข้ามาเป็นธุรกิจที่มั่นคง ทุกคนสามารถเอามาเป็นอาชีพหลักได้”

เมื่อถามถึงกระแสตอบรับในพื้นที่หลังจากมีประเด็นนี้ เธอก็ได้ให้คำตอบว่า “ถ้ามุมมองนักศึกษาตอนนี้ก็ตกใจฮือฮา แบบเราเป็นใคร ทำไมเราสมัครแล้วถ่ายรูปแบบนี้อ่ะค่ะ

หนูก็เข้าใจว่าการที่เราจะมาอยู่จุดนี้เราต้องมีการวางตัวให้เหมาะสม แต่หนูต้องบอกว่าในชีวิตปกติของหนู หนูก็ไม่ได้เป็นคนที่วางตัวไม่เหมาะสม ที่จะไม่รู้กาลเทศะอะไรขนาดนั้น

แต่เมื่ออยู่ในอาชีพ ในการทำงาน เมื่อเขาจ้างเราแล้ว เราก็ต้องทำให้ดีที่สุด เพราะเราอยู่ในบริบทที่เราต้องทำ ณ จุดๆ นั้นก่อน ก็คิดว่าเด็กทุกคนที่เห็นก็น่าจะเริ่มเข้าใจได้และเปิดรับได้ค่ะ”

.

.

.

.

ที่มา Bright TV