เรียกได้ว่ากำลังเป็นประเด็นที่ได้รับความสนใจจากทั่วโลกกันอยู่เลยทีเดียว กับกรณีการแพร่ระบาดของ ‘โรคหัด’ ที่อยู่ๆ ก็มีตัวเลขผู้ติดเชื้อเพิ่มขึ้นทั่วโลก โดยสาเหตุหลักมาจากบรรดา ‘ลัทธิต่อต้านการฉีดวัคซีน’ ที่ไม่ยอมพาลูกๆ ไปฉีดวัคซีนนั่นเอง
และตอนนี้ที่ประเทศญี่ปุ่นเองก็กำลังประสบกับปัญหานี้ด้วยเช่นกัน ล่าสุดเมื่อวันที่ 10-19 กุมภาพันธ์ 2019 ที่ผ่านมาทางหน่วยงานด้านสุขภาพของญี่ปุ่นได้ลงบันทึกว่ามีผู้ได้รับเชื้อโรคหัดทั้งหมด 167 ราย นับเป็นตัวเลขที่สูงที่สุดในรอบสิบปีของประเทศญี่ปุ่น
โดยจังหวัดมิเอะเป็นจังหวัดที่มีจำนวนติดเชื้อมากที่สุดถึง 49 ราย ตามมาด้วยจังหวัดโอซาก้าจำนวน 47 ราย, จังหวัดไอจิ 17 ราย และโตเกียว 11 ราย ส่วนจำนวนที่เหลือกระจายไปยังจังหวัดอื่นๆ (อ้างอิงจาก NHK)
และเกือบทั้ง 49 ราย ที่มาจากจังหวัดมิเอะล้วนแล้วแต่เกี่ยวข้องกับลัทธิทางศาสนาที่มีชื่อว่า Kyusei Shinkyo
ลัทธิ Kyusei Shinkyo เป็นลัทธิที่ให้การนับถือท่าน Meishu ผู้นำของลัทธิในการเยียวยารักษาโรคด้วยวิธีเหนือธรรมชาติ และเป็นผู้ที่ให้การยกย่อง “การทำเกษตรด้วยวิถีธรรมชาติและการสร้างศิลปะเป็นเสาหลักของการไถ่บาป”
รวมถึงความเชื่อในการไม่รับการรักษาด้วยยาแผนปัจจุบัน เพราะคิดว่ายาเหล่านั้นทำให้เกิดโรคร้ายต่างๆ ตามมา รวมไปถึงการปฏิเสธการเข้ารับการฉีดวัคซีน ซึ่งเป็นต้นเหตุให้เกิดการแพร่ระบาดครั้งใหญ่ของโรคหัดนั่นเอง
จนกระทั่งเมื่อเดือนมกราคมที่ผ่านมาทางลัทธิได้ออกมาขอโทษที่เป็นต้นเหตุและสร้างปัญหานี้ และจะปรับเปลี่ยนการให้ความรู้ด้านวัคซีนในวิธีที่ถูกต้อง “โดยเฉพาะโรคติดต่อที่มีความเสี่ยงในการติดเชื้อสูง เช่น โรคหัด” ภายใต้การควบคุมของกระทรวงสาธารณสุข
ภาพของ Mokichi Okada (ท่าน Meishu) ผู้คิดค้นพิธีกรรม Johrei ซึ่งเป็นวิธีการรักษาโดยใช้แสงแห่งเทพ เพื่อปัดเป่าโรคร้ายต่างๆ ที่เกิดขึ้นจากวิญญาณ
ระหว่างนี้ทางองค์กรต่างๆ ที่เกี่ยวข้อง ได้ขอให้ลัทธิดังกล่าวหยุดกิจกรรมและงานอื่น รวมไปถึงหยุดการให้ข้อมูลชวนเชื่อในทางที่ไม่ถูกต้อง เช่น การโน้มน้าวให้คนอยากเข้าลัทธินี้ด้วยวิธีการรักษาโรคผ่านพิธีกรรมทางศาสนา และประสบการณ์เหนือธรรมชาติ
ที่มา: nhk, unseenjapan
Leave a Reply
You must be logged in to post a comment.