สาวถูกขืนใจนาน 2 ชั่วโมง หลังชายหนุ่ม “หลอกพนักงานโรงแรม” จนเข้าห้องเธอได้ง่ายๆ

เรื่องราวนี้อาจทำให้สาวๆ ทั้งหลายรู้สึกกลัวการไปนอนโรงแรมเพียงลำพัง เพราะบางครั้งแม้เราจะล็อคห้องเอาไว้ดีขนาดไหนก็ตาม แต่ก็ไม่อาจรอดพ้นเงื้อมมือของชายผู้หวังจะทำมิดีมิร้ายกับเราได้

Cheri Marchinoda คุณแม่ลูก 3 ชาวอเมริกัน ได้ออกมาเปิดเผยเรื่องราวสุดสะเทือนใจในรายการโทรทัศน์ This Morning เมื่อช่วงกลางเดือนกุมภาพันธ์ 2019 ที่ผ่านมา

 

Cheri คุณแม่ลูก 3 ที่ได้ออกมาเล่าประสบการณ์อันน่าเศร้า

 

เธอได้เล่าย้อนไปถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในปี 2014 ตอนนั้นเธออายุได้ 30 ปี มีความจำเป็นที่จะต้องเดินทางไปติดต่อธุรกิจและเข้าพักที่โรงแรม Embassy Suites ในเมืองดิมอยน์ รัฐไอโอวา เพียงลำพัง

ในคืนหนึ่งขณะที่เธอกำลังใช้เวลาอยู่ที่บาร์ภายในโรงแรม จู่ๆ ก็มีชายหนุ่มเดินเข้ามาต้องการทำความรู้จักกับเธอ ซึ่งสืบทราบในภายหลังว่าชายคนนั้นมีชื่อว่า Christopher Lapointe

 

Christopher ชายผู้พยายามเข้าหาเธอ

 

Cheri ปฏิเสธที่จะนั่งดื่มกับชายคนนั้น ก่อนที่เธอจะเดินกลับขึ้นห้องพักไป แต่ทว่าชายคนเดิมก็ยังใช้โทรศัพท์ของโรงแรมโทรเข้ามาที่ห้องของเธอ และชวนเธออกไปเที่ยวด้วยกัน

แน่นอนว่าเธอได้ปฏิเสธคำชวนของเขา ก่อนที่จะเข้านอนหลับใหลไปโดยที่ไม่รู้เลยว่าหลังจากนั้นจะเกิดเหตุการณ์อันเลวร้ายขึ้น

 

ภาพประกอบบทความ ไม่เกี่ยวข้องกับเนื้อหา

 

หญิงสาวสะดุ้งตื่นขึ้นมาในตอนที่รู้สึกว่ามีใครบางคนสัมผัสขาของเธอ ตอนแรกเธอสลึมสลือและคิดว่าตัวเองอยู่ที่บ้าน จนเมื่อมีสติและคิดได้ว่าตอนนี้กำลังนอนพักอยู่ในโรงแรม พอมองลงไปปลายเตียงก็เห็นว่ามีชายคนหนึ่งยืนอยู่

ชายคนนั้นก็คือ Christopher ผู้พยายามจะเข้าหาเธอและบุกรุกเข้ามาขณะที่เธอกำลังหลับอยู่ ทั้งๆ ที่เธอนั้นได้ล็อกห้องเอาไว้อย่างดีแล้ว มีระบบความปลอดภัยทั้งคีย์การ์ด และสลักกลอน

แล้วอย่างนั้นเขาเข้ามาได้อย่างไรกัน? จากคำให้การในภายหลังกล่าวว่า เขาหลอกล่อพนักงานโรงแรมตรงเคาน์เตอร์ด้วยคำพูดบางอย่างจนได้รับคีย์การ์ดห้องพักของ Cheri โดยที่ไม่ต้องแสดงบัตรประชาชนยืนยันตัวตนใดๆ

 

ภาพตอนที่เขาไปขอคีย์การ์ดเข้าห้องของเธอ

 

แต่พอเขาจะเปิดประตูเข้ามา เขาก็พบว่าเธอลงสลักกลอนเอาไว้ ชายหนุ่มจึงหันไปขอความช่วยเหลือจากพนักงานโรงแรมฝ่ายซ่อมบำรุง โดยอ้างตัวว่า “ผมเป็นแฟนของเธอ และเราทะเลาะกันอยู่ทำให้ผมเข้าห้องไม่ได้”

พนักงานโรงแรมคนนั้นกลับไม่ทำอะไรให้มากความ ช่วยเขาปลดสลักกลอนได้สำเร็จก่อนจะเดินจากไป ทำให้ชายหนุ่มสามารถบุกรุกเข้ามาในห้องของหญิงสาวได้อย่างง่ายดาย โดยที่เธอไม่รู้ตัว

 

 

หลังจากที่เขาเข้ามาและเห็นว่าหญิงสาวตื่นขึ้นมาแล้ว Christopher ก็ได้ขู่เธอว่า “คุณคงจะไม่กรีดร้องออกมาตอนโดนข่มขืนหรอกใช่มั้ย” ซึ่งในขณะนั้นในมือของเขากำลังถือบางอย่างอยู่

Cheri ไม่แน่ใจว่าสิ่งที่เธอเห็นในมือของชายหนุ่มนั้นมันคือปืน มีด หรือรีโมททีวีกันแน่ แต่ที่แน่ๆ คือในตอนนั้นเธอคิดเพียงอย่างเดียวว่าตนเองจะต้องมีชีวิตรอดกลับบ้านไปหาลูกๆ ทั้ง 3 คนให้จงได้

ท้ายที่สุดแล้ว เธอก็ถูกชายหนุ่มขืนใจอยู่นานราวๆ 2 ชั่วโมง ก่อนที่เขาจะออกจากห้องไป ทิ้งไว้เป็นบาดแผลภายในใจของเธอ

 

ภาพประกอบบทความ ไม่เกี่ยวข้องกับเนื้อหา

 

จากคำให้การของเหยื่อผู้เคราะห์ร้ายและเหล่าพนักงานโรงแรม รวมไปถึงภาพจากกล้องวงจรปิด ทำให้เจ้าหน้าที่ตำรวจสามารถจับกุมตัวชายผู้ก่อเหตุได้ไม่ยากนัก

Christopher ถูกตัดสินให้มีความผิดฐานล่วงละเมิดทางเพศ จำคุก 20 ปีนับตั้งแต่เดือนธันวาคม 2014

 

 

อย่างไรก็ตาม Cheri ยังคงเดินเรื่องฟ้องร้องเอาผิดกับทางโรงแรม และทุกฝ่ายที่มีส่วนเกี่ยวข้องที่ส่งผลทำให้ชายคนดังกล่าวสามารถเข้าห้องของเธอไม่ได้โดยถือว่าเป็น “ความไม่เอาใจใส่” และ “ความสะเพร่า” ของเจ้าหน้าที่

และการฟ้องร้องที่ว่านั้นก็ยังคงดำเนินมาถึงปัจจุบัน (ในเดือนกุมภาพันธ์ 2019) และอาจยืดเยื้อต่อไปอีก

 

ที่มา: thesun , dailymail , celbestnews

Comments

Leave a Reply