เจ้าแมวเหมียวขนปุยสัตว์เลี้ยงแสนรักของใครหลายคน ปกติมันก็น่ารักมากอยู่แล้ว ถึงแม้ว่าจะมีความน่าหมั่นไส้อยู่ไม่น้อย แต่ดูรวมๆ แล้วก็ยังมีเสน่ห์เหลือเกิน
แล้วสำหรับบางคน ถ้าเจ้าเหมียวตัวอ้วนกลมก็คงจะยิ่งน่าหมั่นเขี้ยว น่ารัก น่าฟัดยิ่งนัก
แต่เพื่อนๆ ที่ศึกษาเรื่องการเลี้ยงสัตว์มาก็คงพอรู้ว่า “ความอ้วน” ในแมวนั้นมันก็อันตรายต่อชีวิตเด็กๆ สี่ขามากพอๆ กับในมนุษย์เลยทีเดียว…
การให้อาหารแมวแบบบุฟเฟ่ต์หรือตามใจให้ขนมกินเล่นทุกครั้งที่น้องอ้อน หรือแม้แต่ให้อาหารคนที่มีความเข้มข้นสูงนั้นล้วนแล้วแต่เป็นสาเหตุของการเกิดโรคอ้วนในแมวทั้งสิ้น
แล้วยิ่งถ้าเจ้าเหมียวเป็นพวกขี้เกียจ ไม่ชอบวิ่งเล่น วันๆ เอาแต่กินๆ นอนๆ ด้วยแล้วล่ะก็มันก็จะยิ่งอ้วนเร็วขึ้นมากเลยทีเดียว
เมื่อเจ้าแมวของเราเป็นโรคอ้วนแล้วนั้น อาการที่จะตามมารุกรานสุขภาพของพวกมันก็มีทั้ง โรคเบาหวาน โรคไต ระบบปัสสาวะผิดปกติ รวมถึงพวกเด็กๆ จะเจ็บกระดูกและข้อเพราะรองรับน้ำหนักเยอะ และยังทำให้ต่อมไร้ท่อทำงานผิดปกติด้วย
นอกจากนี้ความอ้วนยังทำให้แมวเชื่องช้า ไม่คล่องแคล่วปราดเปรียวตามที่ธรรมชาติของมันควรเป็น โดยรวมแล้วก็จะส่งผลให้แมว “มีอายุขัยสั้นลง” นั่นเอง
หากว่าน้องแมวน้ำหนักเกินมาตรฐานไปแล้ว และอยากจะช่วยมันลดน้ำหนักล่ะก็ เพื่อนๆ ควรพามันไปหาคุณหมอเพื่อขอคำแนะนำเรื่องอาหารที่เหมาะสมกับโรคและน้ำหนักตัวของแมว
งดให้ขนม หยุดให้อาหารคน เปลี่ยนจากเติมอาหารให้เต็มถ้วยตลอดมาเป็นให้อาหารเป็นมื้อ และกระตุ้นให้น้องออกกำลังกาย
มันเป็นเรื่องยากและต้องใช้พลังใจ รวมทั้งความอดทนต่อลูกอ้อนและความอินดี้ของแมวอย่างสูง แต่ถ้าอยากให้เด็กๆ อยู่กับเราไปอีกนานๆ เราก็ยอมเหนื่อยกันอยู่แล้วใช่มั้ยล่ะ?
ส่วนเรื่องมาตรฐานน้ำหนักนั้น แมวโตเต็มวัยโดยทั่วไปแล้วน้ำหนักจะอยู่ที่ 4.5 กิโลกรัม ทั้งนี้ทั้งนั้นก็ขึ้นอยู่กับสายพันธุ์ของแมวด้วย อาจจะมากหรือน้อยกว่านี้ ทางที่ดีสอบถามสัตวแพทย์ดีที่สุดจ้า
ที่มา petmd, osdco และ activepetscare
เรียบเรียงโดย เหมียวม่วง
Leave a Reply
You must be logged in to post a comment.