ในคืนวันที่ 28 ก.พ. 2019 ช่อง 9 อสมท. ได้จัดการดีเบตเพื่อแสดงความคิดเห็นต่อสถานการณ์บ้านเมือง ด้วยหัวข้อที่ว่า “คนใหม่…การเมืองใหม่”
รายการได้รับความคิดเห็นจากเสียงของนิสิต นักศึกษาจำนวน 100 คน ใน 16 สถาบันทั่วประเทศ ร่วมกับตัวแทนผู้สมัครหน้าใหม่ 10 คนจาก 10 พรรคการเมือง
แต่ทว่าหลังจบรายการ วันที่ 1 มี.ค. 2019 นางอรวรรณ ชูดี กริ่มวิรัตน์กุล หนึ่งในพิธีกรรายการดังกล่าว ได้เปิดเผยผ่านเฟซบุ๊ก หลังจากที่เธอถูกบอร์ด อสมท. สั่งให้ยุติการทำหน้าที่ อันเนื่องมาจากการดำเนินรายการในวันนั้น
นางอรวรรณ หนึ่งในผู้ดำเนินรายการ
โพสต์ของเธอกล่าวว่า…
“คารวะพลังบริสุทธิ์ของน้องๆนิสิต นศ.ทั้ง 100 คนในห้องส่ง จาก 16 สถาบันทั้งในกทม.เหนือ กลาง อีสาน ใต้ ที่แสดงความคิดเห็นต่อสถานการณ์บ้านเมืองในรายการดีเบตของช่อง 9 เมื่อคืนวานหัวข้อ ”คนใหม่..การเมืองใหม่” ร่วมกับตัวแทนผู้สมัครหน้าใหม่ 10 คน 10 พรรคการเมือง ในคำถามดังต่อไปนี้
- เห็นด้วยหรือไม่ ที่พล.อ.ประยุทธ์ ตัดสินใจไม่ร่วมการดีเบต
(เห็นด้วย 6 เสียง ไม่เห็นด้วย 94 เสียง) - เห็นด้วยหรือไม่ ที่รธน.60 ในบทเฉพาะกาล 5 ปีแรกให้ ส.ว. 250 คนร่วมโหวตเลือกนายกฯ
(เห็นด้วย 1 เสียง ไม่เห็นด้วย 99 เสียง) - เห็นด้วยหรือไม่ เรื่องยุทธศาสตร์ชาติ 20 ปี จำเป็นสำหรับประเทศไทย
(เห็นด้วย 2 เสียง ไม่เห็นด้วย 98 เสียง) - เห็นด้วยหรือไม่ ว่าประเทศไทยจะมีการปกครองแบบประชาธิปไตยเต็มใบหรือครึ่งใบก็ได้ ถ้าทำให้ปากท้องประชาชนดีขึ้น
(เห็นด้วย 17 เสียง ไม่เห็นด้วย 83 เสียง)”
“พวกเขาไม่ทราบคำถามล่วงหน้า มีเพียงข้าวกล่องและรถรับส่ง ในการมาร่วมรายการ แต่ 100 เสียงในคืนวันที่ 28 ก.พ.62 ของเหล่าเฟิร์สโหวตเตอร์เหล่านี้ กำลังขย่มขวัญไปถึงผู้มีอำนาจ จนมองว่านี่คือการชี้นำโจมตีรัฐบาล ทั้งที่เป็นประเด็นที่คนไทยทั้งประเทศมีสิทธิในการแสดงความคิดเห็นต่ออนาคตของพวกเราทุกคน
ในฐานะ 1 ในพิธีกร และผู้ทำหน้าที่คิดรูปแบบรายการดีเบต ทั้ง 2 ครั้งของช่อง 9 ขอยอมรับการตัดสินใจของ
บอร์ดอสมทและผู้บริหารในการให้ยุติการทำหน้าที่ ในฐานะผู้ใต้บังคับบัญชา
แต่ในฐานะ วิชาชีพสื่อสารมวลชนที่มีอายุงานเกือบ 30 ปี ดิฉันไม่ยินยอมรับการตราหน้าว่าทำหน้าที่ลำเอียง และขอขอบคุณต่อเสียงตอบรับในแง่ดีจากผู้ชมทีวีต่อรายการดีเบตของช่อง9เมื่อคืนที่ผ่านมา ณ โอกาสนี้”
โพสต์ของเธอ
ล่าสุดในคืนวันเดียวกันนั้น นายสุวิทย์ มิ่งมล ประธานสหภาพแรงงาน บมจ. อสมท. ก็ได้ออกมาให้สัมภาษณ์ชี้แจงว่า ต้องการตรวจสอบข้อเท็จจริงก่อนว่ามีคำสั่งให้ปลดนางอรวรรณ ด้วยเหตุผลใด
โดยเขาอธิบายว่าจากรายการดังกล่าวของเธอนั้นกระแสตอบรับเป็นไปในทิศทางที่ดีมากก และเป็นการดำเนินการตามกรอบวิชาชีพ หากไม่มีคำอธิบายในเรื่องนี้ก็จะถูกมองว่ามีกระบวนการแทรกแซงเข้ามา
เบื้องต้นจะวิเคราะห์คำสั่งดังกล่าว และหากไม่มีเหตุผลเพียงพอ หรือทบทวนคำสั่งแล้ว ทางสหภาพฯ จะเคลื่อนไหวออกแถลงการณ์เรียกร้องการคุ้มครองการทำงานตามกรอบวิชาชีพต่อไป
ที่มา: mgronline , khaosod , Orawan Choodee
Leave a Reply
You must be logged in to post a comment.