มนุษย์เรานั้นไม่ว่าจะในยุคสมัยไหนก็หวาดกลัวความตายอยู่เสมอ ดังนั้นเหล่าผู้คนที่มีอำนาจในสมัยก่อน จึงมักทำทุกอย่างเพื่อออกตามหา “ยาอายุวัฒนะ” ด้วยทุกสิ่งทุกอย่างที่พวกเขามี
ดังนั้นจึงนับว่าเป็นน่าสนใจมาก ที่เมื่อเหล่านักโบราณคดีแห่งสถาบันวัฒนธรรมและโบราณคดีแห่งเมืองลั่วหยางได้เข้าไปสำรวจสุสานโบราณของราชวงศ์ฮั่น (ปกครองประเทศตั้งแต่ 202 ปีก่อนคริสตกาล ไปจนถึงคริสต์ศักราชที่ 8) พวกเขาก็พบกับยาอายุวัฒนะ ที่เหล่าฮ่องเต้ตามหากันมานานแสนนาน
โดยวัตถุที่พวกเขาพบนั้นเป็นของเหลวปริมาณราวๆ 3.5 ลิตรที่มีกลิ่นคล้ายสุรา และถูกใส่เอาไว้ในหม้อทองแดง ซึ่งถูกขนย้ายออกมาจากตัวสุสานเมื่อเดือนตุลาคมปี ค.ศ. 2018 ที่ผ่านมา
ในตอนแรกนักโบราณคดียังไม่ทราบว่าสิ่งที่พวกเขาพบนั้นคืออะไรกันแน่ แต่จากการตรวจเพิ่มเติมพวกเขาก็พบว่าสิ่งที่พวกเขาพบนั้นทำจากโพแทสเซียมไนเตรต และอะลูไนต์
อ้างอิงจากวรรณกรรมลัทธิเต๋าโบราณ โพแทสเซียมไนเตรต และอะลูไนต์ เป็นส่วนผสมลับของนักเล่นแร่แปรธาตุแห่งลัทธิเต๋า ที่ใช้ในการทำยาอายุวัฒนะ ดังนั้นนักโบราณคดีจึงเชื่อว่า สิ่งที่พวกเขาพบนั้นน่าจะเป็นเป็นยาอายุวัฒนะของราชวงศ์ฮั่น
แม้จะถูกเรียกว่ายาอายุวัฒนะ ยาที่พบนี้ก็ไม่ได้มีความสามารถในการยืดอายุให้มนุษย์ได้จริงแต่อย่างไร กลับกันโพแทสเซียมไนเตรต และอะลูไนต์ ยังมักนำไปใช้ทำปุ๋ย ดอกไม้ไฟ และดินปืน ซึ่งไม่เหมาะกับการบริโภคอย่างยิ่ง
ความเชื่อผิดๆ นี้เอง ที่ทำให้ฮ่องเต้หลายๆ คนซึ่งพยายามตามหาความเป็นอมตะ จนจ่ายเงินจำนวนมากไปเพื่อจ้างนักเล่นแร่แปรธาตุลัทธิเต๋ามาทำงานให้ กลับต้องเสียชีวิตไวกว่าที่ควรเป็น จากการที่ยาอายุวัฒนะที่กินไปเป็นพิษ
จริงอยู่ว่าการค้นพบในครั้งนี้มีจุดเด่นอยู่ที่การค้นพบยาอายุวัฒนะ แต่นี่ก็ไม่ใช่โบราณวัตถุเพียงชิ้นเดียวที่นักโบราณคดีค้นพบ เพราะในสุสานแห่งเดียวกัน นักโบราณคดียังพบกับ หม้อดินเผาทาสี หยก โบราณวัตถุที่ทำจากสัมฤทธิ์ และโครงกระดูกที่คาดกันว่าเป็นของเจ้าของสุสานอีกด้วย
และแน่นอนว่าวัตถุโบราณเหล่านี้ ก็จะต้องได้รับการนำไปตรวจสอบต่อไป
ที่มา ancient-origins, sputniknews และ dailystar
Leave a Reply
You must be logged in to post a comment.