ถ้าเพื่อนๆ จำได้ไม่นานมานี้เกิดเรื่องใหญ่โตขึ้นในโลก เพราะโรคหัดที่ไม่ได้ระบาดมานานนั้นกลับมาระบาดอีกครั้งเพราะมีผู้ปกครองหลายบ้านไม่ยอมพาลูกไปฉีดวัคซีน เกิดจากลัทธิทางความเชื่อว่าวัคซีนนั้นไม่ดีต่อร่างกายเด็ก
ลัทธิต่อต้านการฉีดวัคซีน (Anti-Vaxx) นั้นระบาดไปทั่วโลก ไม่เพียงแค่ในอเมริกาและญี่ปุ่นที่มีข่าวดังเท่านั้น แม้แต่ในไทยเองลัทธินี้ก็แพร่ระบาดเข้ามา และพยายามเผยแพร่ความเชื่อผิดๆ เกี่ยวกับการฉีดวัคซีน
ซึ่งผลของการแพร่ความเชื่อดังกล่าวนั้น นอกจากตัวเด็กที่ไม่ได้รับการฉีดวัคซีนจะเป็นอันตรายแล้ว ยังอาจทำให้เชื้อที่กลับมาระบาดเกิดการกลายพันธุ์ ดื้อยา กลายเป็นโรคตัวที่แข็งแรงและอันตรายต่อมนุษย์ยิ่งกว่าเดิม
และทำให้มีโอกาสที่โรคต่างๆ จะระบาดไปสู่คนที่ได้รับวัคซีนมาแล้วอีกด้วย
แม้ว่าจะมีการให้ความรู้ที่ถูกต้อง แต่ก็ยังมีคนหลงเชื่อเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ซึ่งองค์กรและหน่วยงานที่ทำงานเกี่ยวกับสุขภาพและโรคทั่วโลกต่างก็ออกมาขอร้องให้สื่อโซเชียลต่างๆ ให้ความร่วมมือในการกำจัดข้อมูลผิดๆ ออกจากอินเทอร์เน็ต
โดยเฉพาะ Facebook ที่ถือว่าเป็น 1 ในสถานที่รวมตัวของเหล่า Anti-Vaxxer จำนวนมากเลยทีเดียว
แม้จะมีการเรียกร้องมาพักใหญ่แล้ว แต่ในที่สุดทาง Facebook ก็มีการเคลื่อนไหวของประเด็นนี้จนได้ โดยทางหัวหน้าทีมระเบียบนโยบายของ Facebook ได้กล่าวว่า
“หากว่ามีข้อมูลหลอกลวงในเรื่องการฉีดวัคซีนโผล่มาบน Facebook ทางเราจะรีบดำเนินการในทันที”
แต่แทนที่จะลบหรือกำจัดออกจากเว็บไป ทาง Facebook ใช้วิธีลดการเข้าถึงแทน
โดยจะตั้งค่าให้กลุ่มและเพจของผู้ต่อต้านการฉีดวัคซีนจะไม่โชว์ขึ้นในหมวดหมู่ของ “กลุ่ม/เพจที่แนะนำ” ลดการแสดงผลในหน้าการค้นหา
ตรงช่องที่ใส่คำค้นหาก็จะไม่ช่วยเติมคำแบบออโต้ให้กับคำที่เกี่ยวข้องกับความเชื่อเหล่านี้
และเนื่องจากว่าทาง Facebook นั้นเป็นเจ้าของ Instagram ด้วย นโยบายดังกล่าวก็จะครอบคลุมไปถึงทาง Instagram ด้วยเช่นกัน
ทางด้านเว็บอื่นๆ ก็ทยอยตอบรับและให้ความร่วมมือในการไม่เผยแพร่ความเชื่อของลัทธิดังกล่าว เช่น YouTube ที่ถอดวิดีโอที่เกี่ยวข้องกับการต่อต้านวัคซีนออกไป
ที่มา LADbible และ The Guardian
Leave a Reply
You must be logged in to post a comment.