เคยได้ยินชื่อแหล่งโบราณสถานของชาวมายาที่ชื่อ Chichén Itzá กันไหม นี่เป็นแหล่งโบราณสถานที่ถูกค้นพบในปี 1966 โดยนักโบราณคดีที่ชื่อ Víctor Segovia Pinto และมีลักษณะเด่นอยู่ที่พีระมิดขั้นบันไดตามแบบอารยธรรมมายาเก่าแก่
แต่แล้วเมื่อปี ค.ศ. 2018 ที่ผ่านมา เหล่านักโบราณคดีที่เข้าไปสำรวจโบราณสถานแห่งนี้ด้วยเทคโนโลยีรุ่นใหม่กลับพบว่า ที่ด้านใต้ของแหล่งโบราณสถานแห่งนี้แท้จริงแล้วยังมีถ้ำเก่าแก่ซ่อนอยู่ข้างใต้อีกแห่งหนึ่งด้วย
ถ้ำที่ว่านี้ถูกเรียกกันว่า Balamku หรือ “ถ้ำของเทพแห่งเสือจากัวร์” สถานที่ซึ่งเชื่อกันว่าเคยถูกใช้งานเป็นที่บูชาของเทพองค์สำคัญของชาวมายาในอดีต และไม่เคยมีใครเข้ามาเป็นเวลากว่า 1,000 ปีแล้ว
และแล้วหลังจากที่มีการสำรวจมาตั้งแต่ปลายปี 2018 ในที่สุดนักโบราณคดีก็พบว่า ภายในถ้าที่พวกเขาพบนั้นมีโบราณวัตถุเก็บเอาไว้กว่า 150 ชิ้นเลย
อ้างอิงจากรายงานของสถาบันมานุษยวิทยาและประวัติศาสตร์แห่งชาติแห่งเม็กซิโก ในบรรดาของที่พบนั้นก็มีทั้งเครื่องหอม แจกัน จานตกแต่ง ไปจนถึงเครื่องใช้ที่มีใบหน้าของเทพ และสัญลักษณ์ทางศาสนาอื่นๆ อีกจำนวนมาก ซึ่งแสดงให้เห็นได้เป็นอย่างดีว่าที่แห่งนี้แทบจะไม่มีคนเข้ามาย่างกรายเลยจริงๆ
Guillermo de Anda หนึ่งในทีมนักโบราณคดีบอกว่า วัตถุโบราณเหล่านี้อาจเป็นหลักฐานสำคัญเกี่ยวกับวัฒนธรรม และชีวิตความเป็นอยู่ของชาวมายาในสมัยก่อนเลยก็เป็นได้
แถมตัวถ้ำเองก็ยังสามารถทำการตรวจสอบทางธรณีวิทยาและจุลชีววิทยาเพื่อหาของเวลาที่โบราณสถาน Chichén Itzá เคยมีการใช้งานไปจนถึงโดนปล่อยทิ้งร้างต่อไปได้อีกด้วย
ที่มา livescience และ mexiconewsdaily
Leave a Reply
You must be logged in to post a comment.