ในเดือนกุมภาพันธ์ ปี 2012 ลูกสิงโตตัวเมียถูกพบในเขตชานเมืองของฟาร์มในบอตสวานา ประเทศในแถบแอฟริกาใต้ สภาพของมันดูแย่มาก
ลูกสิงโตน้อยแทบไม่ขยับและหิวโหยมาก ผู้ช่วยเหลือรู้ว่าต้องทำบางอย่างให้เร็วที่สุด เพื่อให้มันรอด แม้ภารกิจนี้จะไม่ง่ายเลย แต่พวกเขาก็พร้อมที่จะทำ
หลังจากที่ผู้ช่วยเหลือพาสิงโตน้อยกลับไปอยู่ในการดูแล พวกเขารู้ว่าต้องตั้งชื่อให้มัน สุดท้ายทุกคนเห็นตรงกันที่จะเรียกมันว่า Sirga
ผู้ช่วยเหลือทุกคนมองโลกในแง่ดีว่าสักวันจะทำให้มันกลับมาเป็นสิงโตเจ้าป่าที่แข็งแรงและสุขภาพดีได้ โดยการดูแลมันด้วยความรัก ความอ่อนโยน
ชีวิตในวัยเด็กของ Sirga มีแค่ความทุกข์ทรมาน และมันผ่านทุกวันไปอย่างยากลำบาก จนไม่อยากพูดถึงอีก แต่มันก็สู้จนผ่านมาได้ ซึ่งเทียบกับลูกสัตว์หลายๆ ตัวที่ตกอยู่ในสภาพแบบนี้ มักจะไม่รอด
Sirga ไม่ใช่ลูกตัวเดียวในครอก ย้อนกลับไปก่อนหน้านี้ มันเกิดมาพร้อมพี่น้องอีก 2 ตัว น่าเศร้าที่พี่น้องของมันไม่รอด ขณะที่ Sirga ก็ดูท่าจะไม่รอด แม่สิงโตเลยตัดสินใจทิ้งมัน และปล่อยให้มันเผชิญหน้ากับความตายเพียงลำพัง
การถูกแม่ทอดทิ้งเช่นนี้เป็นเรื่องธรรมดาในโลกของสัตว์ป่า แต่ก็ไม่เสมอไป… Sirga ถูกทิ้งให้อยู่ลำพัง โอกาสรอดของมันมีน้อยมาก แน่นอนว่ามันไม่รอดแน่ ถ้าไม่ได้รับการช่วยเหลือ
ด้วยเหตุนี้ นักอนุรักษ์ Valentin Gruener จึงได้นำทีมไปพบกับ Sirga จากนั้นก็ได้ทำเรื่องพาสิงโตน้อยกลับไปที่ศูนย์ดูแลสัตว์ป่าของเขา และเริ่มรักษามัน
นี่เป็นเพียงจุดเริ่มต้นของภารกิจช่วยเหลือเท่านั้น
ในฐานะผู้ร่วมก่อตั้ง Modisa Wildlife Project ชายหนุ่มคิดว่าลูกสิงโตต้องได้รับการเอาใจใส่มากกว่านี้ และเขาจะอยู่ที่นั่นเพื่อมัน
Valentin ได้ร่วมมือกับสัตวแพทย์ในการช่วยเหลือ Sirga โดยเริ่มจากการให้สารอาหาร หรือวิตามินทางสายน้ำเกลือ หรือ IV Drip ซึ่งเป็นหนึ่งในวิธีที่จะทำให้สิงโตน้อยกลับมาแข็งแรง
นอกจากให้ยาแล้ว Valentin ยังได้ดูแลเรื่องอาหารของ Sirga อย่างเข้มงวด อาหารของมันประกอบด้วย ไข่สด นม ครีม วิตามิน น้ำมันดอกทานตะวัน และแคลเซียม
พวกเขาหวังว่าวิธีการเหล่านี้จะเพียงพอสำหรับช่วยชีวิตสิงโตน้อย แต่ไม่แน่ใจว่าผลจะออกมาเป็นยังไง และแล้ว สิ่งที่เกิดขึ้นหลังจากนั้น เป็นอะไรที่วิเศษมาก…
ผลลัพธ์สร้างความประหลาดใจให้ทุกคนเป็นอย่างมากเมื่อ Sirga ดูดีเกินคาด เพราะมันไม่ใช่แค่รอดมาได้ แต่มันเริ่มเติบโตขึ้น มีพัฒนาการดีขึ้นและแข็งแรงขึ้น
Valentin บอกว่า “จนถึงทุกวันนี้ เราคิดว่ามันน่าเป็นสิงโตที่ถูกสปอยมากที่สุด และได้กินอาหารดีที่สุดในบอตสวานา เรารู้วา Sirga มีความสุขกับสิ่งที่ได้รับ อย่างไรก็ตาม มันยังต้องการการดูแลที่พิเศษต่อไป”
เวลาผ่านไป 1 ปี Sirga ยังคงอยู่ภายใต้การดูแลพิเศษ จนมีน้ำหนักอยู่ที่ 77 กิโลกรัม ซึ่งมากกว่าที่ Valentin กับทีมคาดหวังไว้ พวกเขาจึงรู้สึกเซอร์ไพรส์มาก
หลังจากที่เห็นว่า Sirga เติบโตพร้อมร่างกายที่สมบูรณ์แข็งแรงแล้ว Valentin จึงตัดสินใจยกเลิกการดูแลพิเศษให้กับมัน โดยเฉพาะเรืองอาหาร โดยการให้มันเริ่มทำความคุ้นเคยกับการกินเนื้อดิบ
เนื่องจากสิงโตน้อยถูกแม้ทิ้งตั้งแต่เด็กและได้เติบโตในศูนย์ช่วยเหลือสัตว์ป่าภายใต้การดูแลของ Valentin กับทีมงาน ดังนั้น มันจึงเห็นทุกคนที่นี่เป็นครอบครัว
พวกเขาคือคนที่ปกป้องมัน ดูแลมันจนกลับมามีสุขภาพดี และมอบความรักให้มัน ขณะที่ครอบครัวแท้ๆ ทิ้งมันไป
อย่างไรก็ตาม เมื่อ Sirga อายุครบ 3 ขวบ ขนาดตัวของมันใหญ่ขึ้นเป็น 3 เท่าจากเดิม ทำให้ Valentin กับทีมงานแทบจะเล่นกับมันเหมือนตอนเด็กๆ ไม่ได้
ขนาดตัวของ Sirga กลายเป็นปัญหาสำหรับทุกคน ยกเว้น Valentin… การที่เจ้าสิงโตสาวถูกทีมงานเมิน ยิ่งทำให้ชายหนุ่มเห็นใจมันมากขึ้น เขาจึงเป็นคนเดียวที่ยังปฏิบัติกับมันเหมือนเดิม และคอยปรับตัวให้ทันกับมัน
Valentin เป็นคนแรกที่ช่วยลูกสิงโตตอนที่ถูกแม่ทิ้งให้เผชิญกับความตายเพียงลำพัง และตอนนี้เขาเป็นคนเดียวที่เล่นกับมัน จนเจ้าสิงโตคิดว่าเขาเป็นพ่อไปแล้ว
แม้ว่าสิงโตสาวจะตัวโตกว่าและแข็งแรงกว่าพ่อ แต่มันไม่ได้ทำพฤติกรรมเหมือนสิงโตป่าทั่วไปที่มีขนาดเดียวกัน มันชอบวางหัวบนตักพ่อ และผลอยหลับไป
นอกจากนี้ Sirga ยังสนุกกับการพุ่งตัวเข้าไปหา Valentin เพื่อกอดเขาเป็นชุดใหญ่ไฟกะพริบ มันแสดงความรักกับเขาเหมือนที่เด็กๆ แสดงความรักต่อพ่อแม่
การดูแล Sirga ทำให้กลายเป็นพ่อจริงๆ อย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ เจ้าสิงโตเหมือนลูกสาวของเขา และไม่ว่าการดูแลสิงโตจะมีความเสี่ยงแค่ไหน เขาก็พร้อมที่จะทำ เพราะเขาไม่ได้คิดว่ามันเป็นแค่สัตว์ป่า แต่มันคือลูกที่เขาไม่อาจจะละเลยได้
การต้องดูแลลูกสาวที่เป็นสิงโต คุณจะเจอกับปัญหาที่เหมือนกับการดูแลลูกที่เป็นมนุษย์ แต่ถึงอย่างนั้น Valentin ก็พยายามที่จะเป็นพ่อที่ดีที่สุดให้กับลูกสาววัย 3 ขวบตัวนี้
Valentin มีทีมที่คอยช่วยฝึก Sirga เพื่อให้มันใช้ชีวิตในป่าได้อย่างราบรื่น พวกเขาเปลี่ยนความขี้เล่นของมัน ให้กลายเป็นเทคนิคในการรับมือกับสถานการณ์ต่างๆ ซึ่งรวมทั้งสถานการณ์ที่เลวร้ายมาก
เนื่องจาก Sirga เชื่อใจ Valentin ดังนั้น มันจึงเรียนรู้ที่จะเชื่อคนอื่นๆ ที่พ่อพามาแนะนำด้วย ดังนั้น ในกระบวนการฝึกฝนนี้จึงไม่อันตรายอย่างที่คิด เพราะเจ้าสิงโตเชื่อฟังครูฝึกเหมือนที่มันเชื่อฟังพ่อ
การที่ Valentin สามารถเลี้ยงดูสิงโตให้เติบโตมาอย่างงดงามและเชื่อขนาดนี้ได้ แสดงว่าคนอื่นก็ทำได้เหมือนกัน แต่นั่นไม่ใช่สิ่งที่เขาตั้งในไว้ตั้งแต่แรก
เขาอยากให้ Sirga เติบโตมาในป่า มีชีวิตที่อิสระ และสามารถท่องเที่ยวไปไหนมาไหนได้เหมือนนก เขาพยายามให้เจ้าสิงโตอยู่กลางแจ้งตลอดทั้งวัน แต่ไม่นาน สถานการณ์ก็เปลี่ยนไป…
Valentin กับทีมงานต้องเตรียมย้าย Sirga ไปใช้ชีวิตในทะเลทราย ซึ่งเป็นที่ที่มันควรอยู่และพวกควรทำอย่างนั้นเพื่อมัน
ถ้า Sirga ไม่ได้กลับไปอยู่ในป่าที่แท้จริง มันจะไม่รู้จักการล่า นั่นเป็นเหตุผลว่าทำไมทีมงานจึงต้องฝึกให้มันเรียนรู้ทักษะต่างๆ ซึ่งทั้งหมดก็เพื่อให้มันเอาตัวรอดได้
นอกจากทักษะที่สอนไปแล้ว Sirga ยังได้เรียนรู้การใช้ความสามารถอีกหลายๆ อย่างด้วยตัวเอง เหมือนกับมนุษย์เราที่ไม่ได้เรียนรู้ทุกอย่างจากห้องเรียนเสมอไป
เมื่อไปอยู่ในที่ใหม่ Sirga ปรับตัวได้ค่อนข้างช้าในตอนแรก แต่ในที่สุดมันก็เรียนรู้ว่าต้องใช้ชีวิตอย่างไร มันเรียนรู้ที่จะล่าเพื่อความอยู่รอด และเรียนรู้วิธีการเอาตัวรอด เมื่อมีอันตรายเข้ามา
Valentin บอกว่า “ผมไม่ต้องการให้ Sirga เหมือนสิงโตทั่วไปที่หิวโหยในการล่า ซึ่งถ้าคุณเคยไปสวนสัตว์คงจะเข้าใจดีว่าตอนที่พวกมันแย่งอาหารกันน่ากลัวแค่ไหน”
ด้วยการฝึกฝนตั้งแต่เด็ก แม้จะมาอยู่ในป่าจริงๆ แต่ Sirga ล่าอาหารกินเองอย่างเรียบง่าย แถมยังให้ Valentin นั่งดูตอนที่มันกินด้วย ซึ่งเป็นอะไรที่น่าทึ่งมาก
Valentin กับทีมยังคงทำงานหนักอย่างต่อเนื่อง เพื่อให้แน่ใจว่า Sirga ไม่ได้รับการปกป้องมากเกินไป แม้ว่าจะเป็นงานที่เหนื่อย ที่พวกเขารู้ว่ามันคุ้มค่า
“เราต้องการให้มันใช้ชีวิตในฐานะสิงโตที่แท้จริง เป็นสิงโตป่าที่ไม่ใช่ลูกสิงโตที่เคยพบปะกับผู้คนมากมาย ดังนั้น ยิ่่งเราสนิทและติดต่อสื่อสารกับมันมากเท่าไหร่ ยิ่งเป็นอันตรายกับมัน” ชายหนุ่มกล่าว
นั่นหมายความว่าสักวันหนึ่ง คงต้องมีการบอกลาระหว่างพ่อลูกต่างสายพันธุ์คู่นี้ แม้จะเป็นเรื่องที่ทำใจยาก แต่ทั้งหมดนี้ก็เพื่อตัวเจ้าสิงโตเอง และในฐานะพ่อที่ดี นี่คือสิ่งที่ควรทำ
สำหรับ Sirga นั้น ทั้งชีวิตนี้มันมีแค่ Valentin ที่เป็นทุกอย่างให้มัน มันมีความสุขกับการมีเขาอยู่ใกล้ๆ แต่ตอนนี้มันกำลังเตรียมตัวที่จะใช้ชีวิตโดยมันไม่มีเขา หากเวลานั้นมาถึงจริงๆ คงเป็นเรื่องที่น่าเศร้าและน่าใจหายมากสำหรับทั้งคู่
แม้ต้องอยู่แยกจากกัน แต่เชื่อว่าทั้งคู่จะเป็นความทรงจำที่ดีทีสุดของกันและกันเสมอและตลอดกาล
ที่มา giveitlove
Leave a Reply
You must be logged in to post a comment.