‘โรคหัด’ ถือเป็นหนึ่งในโรคระบาดร้ายแรงที่คร่าชีวิตของมนุษย์มามากมายหลายล้านชีวิตเมื่อครั้งอดีต แต่มนุษย์เราก็สามารถคิดค้นวัคซีนเพื่อป้องกันมันได้สำเร็จ
แต่ปัจจุบัน มีหลายครอบครัวที่มีแนวคิดปฏิเสธไม่ให้ลูก ‘ฉีดวัคซีน’ และนั่นส่งผลก่อให้เกิดการระบาดของโรคหัดอีกครั้งหนึ่ง
และจากรายงานของ The New York Times รัฐนิวยอร์กกำลังประสบปัญหาโรคหัดระบาดที่ร้ายแรงมากที่ที่สุดในช่วงทศวรรษ นับตั้งแต่เดือนตุลาคมปีที่แล้ว
นั่นทำให้มีเด็ก 42 คน ถูกแบนไม่ให้ไปโรงเรียน Green Meadow Waldorf ที่ตั้งอยู่ในเขต Rockland ซึ่งเป็นศูนย์กลางของการระบาดโรคหัดในนิวยอร์ก
กรมสาธารณสุขของเขต Rockland ได้ตัดสินใจในเดือนธันวาคม แบนนักเรียนที่ไม่ยอมรับการฉีดวัคซีนไม่ให้ไปเรียนที่โรงเรียน การตัดสินใจนี้ทำให้พ่อแม่ของเด็ก 42 คนที่ถูกแบนจากโรงเรียน ไม่พอใจเป็นอย่างมาก
พ่อแม่ของเด็กที่ถูกแบนคนหนึ่งได้กล่าวว่าการแบนลูกของพวกเขาเป็นการสร้างผลร้ายมากกว่าผลดี และตัดสินใจฟ้องสาธารณสุขของเขต Rockland เพื่อขอให้ลูกของเขาได้กลับไปเรียน แต่คำร้องก็ถูกปฏิเสธในวันที่ 12 มี.ค. 2562
เธอกล่าวว่าลูกของเธอถูกกีดกันจากห้องเรียนมาแล้วกว่า 90 วัน และเสริมว่า“การกีดกันไม่ให้ลูกของคุณไปอยู่ในห้องเรียน ได้เจอคุณครู ได้เจอเพื่อนร่วมชั้น จะส่งผลกระทบต่อสถานภาพทางสังคมและทางจิตของเขา”
ด้านผู้พิพากษา Vincent Bricetti จากศาลเขต White Plains กล่าวว่าต้องปฏิเสธคำร้องเพื่อปกป้องสุขภาพของคนในสังคม
“เราต้องยืนหยัดอย่างมั่นคงเพื่อปกป้องเด็กๆ และผู้ที่อาจได้รับผลกระทบจากโรคนี้” Thomas Humbach อัยการจากเขต Rockland เสริม
จากเหตุการณ์ดังกล่าวทำให้พ่อแม่บางคนที่ลูกถูกแบนต้องจ้างครูมาสอนที่บ้าน บ้างก็ให้ดูถ่ายทอดสดในห้องเรียนที่พวกเขาไม่สามารถเข้าร่วมได้ แต่ก็มีบางคนที่กลับใจให้ลูกได้รับวัคซีน
ที่มา: CBS, The New York Times, Unilad
Leave a Reply
You must be logged in to post a comment.