21 ภาพทหารสหภาพแห่งสงครามกลางเมืองอเมริกา เหล่าผู้ที่สู้ปลดปล่อยทาสให้เป็นอิสระ

สงครามกลางเมืองอเมริกา หรือ American Civil War เป็นสงครามสงครามกลางเมือง ซึ่งเกิดขึ้นในช่วงปี 1861-1865 ระหว่างฝ่ายสหภาพหรือฝ่ายเหนือ ซึ่งนำโดยอับราฮัม ลินคอล์น กับฝ่ายสมาพันธรัฐหรือฝ่ายใต้ ซึ่งนำโดยเจฟเฟอร์สัน เดวิส ภายใต้ความขัดแย้งเกี่ยวกับการใช้งานทาส

สงครามในครั้งนั้นนับว่าเป็นสงครามครั้งสำคัญของสหรัฐอเมริกาเลยก็ไม่ผิดนัก ดังนั้นจึงไม่ใช่เรื่องแปลกที่จะมีการเก็บภาพเกี่ยวกับสงครามครั้งนี้เอาไว้เป็นจำนวนมาก

และในวันนี้เองเราก็จะไปชมภาพที่ถูกถ่ายมาในช่วงสงครามครั้งนี้กัน โดยเน้นไปที่ภาพของตัวทหารแต่ละคนของฝ่ายสหภาพในช่วงนั้น ไม่ใช่ภาพของตัวสงครามเองอย่างที่เราเห็นกันบ่อยๆ

 

เริ่มกันจากภาพของทหารฝั่งสหภาพสองคนที่ถือซิการ์ให้กันและกัน

 

เหล่าทหารไม่ปรากฏชื่อสามคน ที่ถ่ายรูปกับหมวกและปืนคู่ใจ

 

พลทหาร  Hiram J และ พลทหาร William H จากตระกูล Gripman

สองพี่น้องที่เข้าร่วมสงครามกับฝั่งสหภาพ

 

สิบโท Alvin B. Williams กับปืนประจำตัวที่มีการติดดาบปลายปืนเอาไว้

 

สิบเอก Edwin Chamberlain กับการเล่นกีตาร์ในเครื่องแบบ

 

เหล่าทหารห้าคนของฝั่งสหภาพที่ถูกถ่ายไว้หน้าค่ายทหาร

 

John E. Cummins จากกองทหารราบโอไฮโอ 185 ถ่ายภาพคู่กับม้า

 

พลทหาร Albert H. Davis ในสภาพแบกอุปกรณ์ทหารครบชุด

 

พลทหาร David M. Thatcher พร้อมดาบประจำหน่วยทหารม้า และปืนลูกโม่

 

พลทหาร Private Edward A. Cary กับน้องสาวของเขา

 

พลทหาร Henry Augustus Moore กับดาบสั้นอันเป็นสัญลักษณ์ของทหารหน่วยปืนใหญ่

 

พลทหาร Silas A. Shirley  กับป้ายที่ระบุคำว่า “ชัยชนะหรือความตาย” เอาไว้

 

พลทหาร Simeon J. Crews กับดาบและปืนลูกโม่ แน่นอนว่ามาจากหน่วยทหารม้า

 

Samuel W. Doble กับกลองที่ใช้ในการทหาร

 

หน่วยทหารปืนใหญ่กับการสำรวจพื้นที่ด้วยกล้องส่องทางไกล

 

ทหารไม่ทราบนาม 3 นายกับธงสหรัฐฯ ที่ในเวลานั้นยังมีดาวเพียง 34 ดวง

 

ทหารสองคนพร้อมเครื่องดื่ม ที่มีฉากหลังเป็นภาพวาดของค่ายทหารอีกที

 

ทหารสองนายที่ถ่ายภาพคู่กับสุรา และไพ่

 

กะลาสีชาวแอฟริกันอเมริกัน นั่งจัดฉากถ่ายภาพ

 

ทหารชาวแอฟริกันอเมริกันไม่ทราบนาม กับดาบประจำหน่วยทหารม้าของฝ่ายสหภาพ

 

และภาพของทหารทหารแอฟริกันอเมริกันพร้อมครอบครัวอันเป็นเหตุผลให้เขาสู้ต่อไป

 

ที่มา vintag

Comments

Leave a Reply