นักวิทย์พบ การทานน้ำเชื่อมข้าวโพดแบบฟรุ๊กโตสสูง ทำให้หนูเป็นมะเร็งลำไส้ใหญ่ได้

เป็นเรื่องที่หลายๆ คนคงจะทราบกันอยู่แล้วว่าการทานของหวานปริมาณมากนั้นส่งผลที่ไม่ดีต่อร่างกาย แต่จะเกิดอะไรขึ้นหากการนักวิทยาศาสตร์พบว่าการทานหวานนั้นสามารถเพิ่มโอกาสเป็นโรคมะเร็งลำไส้ใหญ่ได้ด้วย อย่างน้อยๆ ก็ในหนู

 

 

นั่นเพราะเมื่อวันที่ 21 มีนาคม ค.ศ. 2019 ที่ผ่านมานี้เองในวารสาร “Science” นักวิจัยได้ค้นพบความจริงที่น่าสนใจที่ว่าหนูที่ทานเครื่องดื่มที่มีส่วนผสมของน้ำเชื่อมข้าวโพดแบบฟรุ๊กโตสสูงหรือ HFCS (High fructose corn syrup) ราวๆ 12 ออนซ์จะมีการเร่งการสะสมเนื้องอกขึ้นในร่างกาย ที่สูงกว่าหนูซึ่งทานน้ำเปล่ามากอย่างเห็นได้ชัด

แน่นอนว่าผลการวิจัยที่ในเกิดขึ้นในหนูนั้น ไม่จำเป็นที่จะต้องเกิดขึ้นกับคนเสมอไป แต่นักวิจัยก็บอกว่าหนูที่ถูกทดลองในครั้งนี้มีการตัดต่อยีนเพื่อให้ใกล้เคียงกับมนุษย์มากขึ้นแล้ว แถมในช่วงหลายปีที่ผ่านมา เรายังพบว่าในปัจจุบันที่คนเรามีอัตราการทานน้ำตาลมากขึ้น เด็กๆ ยังมักมีอาการมะเร็งลำไส้เพิ่มขึ้นด้วยเช่นกัน

ดังนั้นจึงไม่ใช่ว่าจะไม่มีความเป็นไปได้เลยว่าอาการที่เกิดขึ้นกับหนูนั้นก็อาจจะเกิดขึ้นกับคนได้จริงๆ

 

 

นอกจากนี้งานวิจัยยังชี้ให้เห็นถึงความเป็นไปได้ที่น่าสนใจของความเกี่ยวข้องระหว่างน้ำตาลกับมะเร็งลำไส้ใหญ่ได้เป็นอย่างดี เพราะเมื่อก่อนเราจะคิดว่าความอ้วนจากการทานของหวานนั้นเป็นปัจจัยของมะเร็งลำไส้ แต่ดูเหมือนว่าจริงๆ แล้วน้ำตาลอาจจะเป็นปัจจัยของมะเร็งเองโดยตรง ไม่ใช่ความอ้วนอย่างที่เราคิด

เพราะแม้แต่หนูที่ไม่อ้วน นักหากทานน้ำเชื่อมข้าวโพดแบบฟรุ๊กโตสสูงในระดับที่กล่าวไว้ข้างต้นก็จะมีความเสี่ยงเป็นมะเร็งลำไส้ได้เช่นกัน

 

 

นับว่าโชคดีมากที่การทดลองครั้งนี้นั้นไม่ได้พบแต่ปัญหาของน้ำตาลเท่านั้น เพราะการทดลองครั้งนี้เองยังมีการค้นพบอีกว่าในเนื้องอกที่พบนั้นมีเอนไซม์ที่ชื่อ “Ketohexokinase” หรือ “KHK” อยู่ ซึ่งเป็นตัวการหลักที่ทำให้เนื้องอกโตขึ้น ด้วยการเปลี่ยนฟรักโทสเป็นไขมันชื่อ “Fructose-1-phosphate”

ดังนั้นหากเราให้ยาที่ส่งผลโดยตรงกับเอนไซม์ตัวนี้เราก็อาจจะหยุดเนื้องอกที่เกิดจากน้ำเชื่อมข้าวโพดได้นั่นเอง

 

 

น่าเสียดายที่ในปัจจุบันเรายังไม่สามารถบอกได้ว่าอะไรในน้ำตาลกันแน่ที่ส่งผลใช้เกิดเนื้องอกในหนูได้ หรือประเภทของน้ำตาลนั้นมีความเกี่ยวข้องกับโรคที่จะเกิดขึ้นหรือไม่

ดังนั้นในปัจจุบันนักวิทยาศาสตร์จึงยังคงต้องมีการทดลองต่อยอดในเรื่องนี้ต่อไป โดยทีมวิจัยบอกไว้ว่าเป้าหมายหลักในการทดลองครั้งใหม่นั้น ควรจะอยู่ที่การดื่มน้ำตาลจะเกี่ยวข้องกับโรคมะเร็งในมนุษย์ เหมือนกับหนูหรือไม่นั่นเอง

 

ที่มา livescience

Comments

Leave a Reply