หนุ่มอินเดียเสียชีวิต หลังตรวจพบพยาธิจำนวนมากในสมอง ตาขวา และถุงอัณฑะ

เมื่อวันที่ 27 มีนาคม ค.ศ. 2019 ที่ผ่านมา วารสาร “The New England Journal of Medicine” ได้มีการออกมาเปิดเผยข่าวประหลาด

เมื่อมีชายหนุ่มอายุ 18 ปีชาวอินเดียคนหนึ่งถูกส่งตัวมายังโรงพยาบาล ด้วยอาการชักกระตุก หมดสติ และมีการหดตัวของกล้ามเนื้ออย่างรุนแรง

พ่อแม่ของชายหนุ่มบอกกับทีมแพทย์ว่าลูกชายของพวกเขามีอาการเจ็บที่บริเวณขาหนีบมาเป็นเวลากว่าหนึ่งสัปดาห์แล้ว แต่เมื่อไม่นานมานี้เองเขากลับมีอาการชัก และตาขวาบวมอย่างผิดปกติ

 

 

หลังจากที่ทางทีมแพทย์ตรวจสอบร่างกายของชายหนุ่มอย่างละเอียดด้วยระบบ MRI และการตรวจสอบอื่นๆ พวกเขาก็พบว่าชายหนุ่มคนนี้มีถุงน้ำซึ่งเกิดจากพยาธิตัวตืดอยู่ที่สมองชั้นนอก เหนือตาขวา และถุงอัณฑะ

 

อ้างอิงจากในรายงานนี่คืออาการของโรค Neurocysticercosis โรคที่เกิดจากการติดเชื้อพยาธิตัวตืดในระบบประสาทซึ่งพบได้ในประเทศแถบแอฟริกา ลาตินอเมริกา และเอเชีย

โดยในกรณีนี้ชายหนุ่มมีการติดเชื้อจากพยาธิตัวตืดหมู (Taenia solium) ซึ่งคาดว่าติดมากับการทานอาหารของตัวชายหนุ่มเอง

 

ส่วนหัวของ Taenia solium เมื่อส่องด้วยกล้องจุลทรรศน์

 

อาการของโรคนี้สามารถรุนแรงได้ถึงระดับเสียชีวิต โดยเฉพาะในกรณีของชายคนนี้ เขามีถุงน้ำจำนวนมากในร่างกายจนไม่สามารถรักษาได้ด้วยยาต่อต้านปรสิตธรรมดา

ทำให้สุดท้ายทีมแพทย์จำเป็นต้องรักษาโดยพึ่งพาสเตียรอยด์และยาต้านโรคลมชักแทน

 

น่าเสียดายที่แม้ว่าทางทีมแพทย์จะพยายามยื้อชีวิตของชายหนุ่มมากแค่ไหน สุดท้ายแล้วพวกเขาก็ไม่สามารถช่วยเหลือชายคนนี้ไว้ได้อยู่ดี

เพราะหลังจากที่ทนทรมานอยู่ราวๆ 2 สัปดาห์ สุดท้ายชายหนุ่มก็ต้องจากโลกใบนี้ไปอยู่ดี

 

ตัวอ่อนของ Taenia solium

 

เรื่องที่เกิดขึ้นทำให้ทางองค์การอนามัยโลกออกมาแสดงความเป็นห่วงเกี่ยวกับพยาธิตัวตืดหมูเป็นอย่างมาก และได้ออกมาเตือนให้ผู้คนระวังเรื่องสุขอนามัยของอาหารการกินให้มากขึ้น

เพราะโรคเกิดกับพยาธินั้นสามารถเกิดขึ้นกับใครก็ได้  และจำเป็นต้องอาศัยความช่วยเหลือทางสาธารณสุขที่หลากหลายในการป้องกันอย่างมีประสิทธิภาพนั่นเอง

 

ที่มา livescience, cnn และ thesun

Comments

Leave a Reply