‘หนุ่มออทิสติก’ แฮกเข้าระบบ Microsoft และ Nintendo เสียหายกว่า 120 ล้านบาท

เมื่อวันที่ 28 มีนาคม 2019 ณ ศาล London Crown ประเทศอังกฤษ แฮกเกอร์นามว่า Zammis Clark ได้ถูกตัดสินความผิด หลังจากที่เขาได้ทำการเจาะเข้าไปในเซิร์ฟเวอร์ ขโมยข้อมูลจากบริษัทยักษ์ใหญ่ 2 แห่ง

บริษัทที่ว่านั้นก็คือ Microsoft และ Nintendo โดยการกระทำดังกล่าวของผู้ต้องหานั้นสร้างความเสียหายให้ทั้งสองบริษัทรวมกันกว่า 3.8 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ประมาณ 120 ล้านบาท)

 

 

Clark เป็นพนักงานของบริษัทพัฒนาโปรแกรมป้องกันไวรัสประเภทมัลแวร์ (โปรแกรมไม่พึงประสงค์รูปแบบหนึ่ง) ที่มีชื่อว่า Malwarebytes

เริ่มแรกเขาได้ทำการเข้าสู่ระบบของ Microsoft ในเดือนมกราคม 2017 โดยใช้บัญชีและรหัสผ่านจากคนใน จากนั้นเขาก็สร้างทางออกลับเอาไว้ ทำให้เขาสามารถกลับเข้ามาในระบบได้อีกในเดือนถัดไป

มีครั้งหนึ่ง Clark ได้โจรกรรมข้อมูลในเซิร์ฟเวอร์ไปราวๆ 43,000 ไฟล์ ซึ่งในนั้นมี Windows เวอร์ชันใหม่ที่เตรียมจะปล่อยออกมาอีกด้วย

 

 

นอกจากนี้เขายังแชร์วิธีเข้าระบบให้กับคนอื่นๆ ในห้องแชทลับของเขา ซึ่งทำให้แฮกเกอร์รายอื่นเข้ามาขโมยข้อมูลไปด้วยเช่นกัน

ภายหลังตำรวจได้พบข้อมูลที่ถูกขโมยมาในคอมพิวเตอร์ที่บ้านของ Clark หลังจากร่วมมือกับทีมรักษาความปลอดภัยทางไซเบอร์ของ Microsoft, องค์กรอาชญากรรมทางไซเบอร์, FBI และ EUROPOL

(EUROPOL – หน่วยงานด้านกฎหมายในทวีปยุโรป)

ด้วยเหตุนั้นเอง Clark จึงถูกจับกุมตัวในเดือนมิถุนายน 2017 ก่อนที่จะถูกประกันตัวออกมา

 

 

และดูเหมือนว่าเขาจะยังไม่เข็ด… เพราะในเดือนมีนาคม 2018 Clark ได้ทำการแฮกเข้าไปในเซิร์ฟเวอร์ของ Nintendo ทำให้เขาเข้าถึงเกมที่ยังไม่ถูกปล่อยออกมา รวมถึงกว่า 2,365 บัญชีและรหัสผ่านในนั้น

หลังจากนั้น 2 เดือน Nintendo ก็ได้พบว่าระบบของพวกเขาถูกเจาะ เมื่อตามรอยกลับไปก็พบว่า Clark คือคนที่เจาะระบบเข้ามา ทำให้เขาถูกจับกุมอีกครั้ง

 

 

แต่เมื่อเข้าสู่กระบวนทางกฎหมาย ทนายของ Clark ได้กล่าวว่าเขามีอาการ “ออทิสติก” เขาเสพติดการแฮกและไม่สามารถช่วยตัวเองได้

ศาลจึงตัดสินใจลงโทษลงโดยสั่งจำคุก Clark 15 เดือน และคาดทัณฑ์บนเอาไว้ หากเขาละเมิดกลับมากระทำแบบเดิมอีกครั้ง จะทำให้เขาถูกจำคุก 5 ปี พร้อมกับค่าปรับมหาศาล

 

ที่มา: theverge, standard, nintendolifeign, neowin, ladbible


Tags:

Comments

Leave a Reply