เมื่อวันที่ 20 มีนาคม ค.ศ. 2019 ที่ผ่านมา หนังสือพิมพ์ของประเทศอิสราเอลได้มีการออกมาประกาศข่าวการค้นพบเศษภาชนะเครื่องปั้นดินเผาอายุกว่า 2,500 ปีของชาวเปอร์เซีย ในการขุดค้นที่จอดรถ Givati ซึ่งในปัจจุบันได้กลายเป็นแหล่งโบราณคดีที่มีขนาดใหญ่ที่สุดที่กำลังมีการขุดค้นของเยรูซาเล็มในปัจจุบัน
โดยเศษเครื่องปั้นดินเผาที่มีการพบในครั้งนี้มีจุดเด่นอยู่การตกแต่งเป็นรูปของเทพเบส (Bes) เทพที่มีลักษณะเด่นอยู่ที่ขนาดตัวที่เล็กคล้ายคนแคระ สวมหมวกรูปขนนกกระจอกเทศ และมีใบหน้าที่แปลกประหลาดที่มักแลบลิ้นราวกับล้อเลียนอะไรบางอย่างอยู่
เทพเบสนั้นเป็นเทพพื้นเมืองซึ่งปรากฏตัวออกมาบ่อยๆ ในงานศิลปะอียิปต์ ซึ่งแม้ว่าจะมีรูปลักษณ์ที่แปลกแต่ก็ทำหน้าที่คุ้มครองคนในบ้านจากสิ่งชั่วร้ายได้เป็นอย่างดี จนในหลายๆ ครั้งคนโบราณก็เชื่อกันว่าเสียงหัวเราะของเทพเบสนั้นจะทำให้ภูตผีปีศาจหวาดกลัวได้เลย
น่าเสียดายที่เศษเครื่องปั้นดินเผาที่พบนั้นส่วนล่างของใบหน้าเทพเบสนั้นได้สูญหายไปตามกาลเวลาแล้ว ถึงอย่างนั้นก็ตามเราก็ยังสามารถเห็นความเป็นเอกลักษณ์ของเทพเบสได้ไม่ยากจากดวงตาและจมูกที่ยังเหลืออยู่
อ้างอิงจากทีมนักโบราณคดี เศษเครื่องปั้นดินเผานี้น่าจะเคยเป็นส่วนหนึ่งของเหยือกที่เรียกกันว่า “Bes-vessel” หรือ “เหยือกเบส” หนึ่งในงานฝีมือที่ชาวเปอร์เซียนำเข้ามาจากอียิปต์ และเป็นที่โด่งดังมากในช่วง 400-500 ปีก่อนคริสตกาล
คุณ Yuval Gadot ศาสตราจารย์ด้านโบราณคดีแห่งมหาวิทยาลัย Tel Aviv บอกว่าเศษเครื่องปั้นดินเผาชิ้นนี้นับเป็นเหยือกเบสชิ้นแรกที่นักโบราณคดีเคยพบมาในเยรูซาเล็มเลย
ดังนั้นแม้ว่าโบราณวัตถุที่มีการค้นพบจะไม่สมบูรณ์อย่างที่หวังก็ตาม แต่นี่ก็ยังคงนับว่าเป็นการค้นพบที่มีคุณค่าสำหรับอิสราเอลเป็นอย่างยิ่ง
ที่มา cbn, archaeology, livescience และ israelnationalnews
Leave a Reply
You must be logged in to post a comment.