กลายเป็นข่าวการค้นพบครั้งใหญ่อีกครั้งหนึ่งของทางประเทศอียิปต์ไปแล้ว เมื่อวันที่ 29 มีนาคม ค.ศ. 2019 ที่ผ่านมาทางกระทรวงโบราณวัตถุของอียิปต์ได้ออกมาประกาศข่าวการค้นพบส่วนหนึ่งของพระราชวังอายุกว่า 3,000 ปี ในเมืองอไบดอส เมืองเก่าแก่ที่อยู่ห่างออกไปทางใต้ของกรุงไคโรราวๆ 550 กิโลเมตร
การค้นพบในครั้งนี้เกิดขึ้นโดยฝีมือของเหล่านักโบราณคดีของมหาวิทยาลัยนิวยอร์ก และเชื่อกันว่าเป็นของฟาโรห์แรเมซีสที่ 2 (หรือโอซีแมนเดียสตามที่บันทึกไว้ในเอกสารกรีกโบราณ) ผู้ซึ่งปกครองอาณาจักรในช่วง 1279–1213 ปีก่อนคริสตกาล
โบราณสถานแห่งนี้ ถูกพบครั้งแรกในสภาพสิ่งปลูกสร้างเล็กๆ ข้างวิหารขนาดใหญ่ที่เคยมีการค้นพบไปก่อนหน้าแล้ว และมี “คาร์ทูช” (สัญลักษณ์ที่ใช้แทนชื่อของฟาโรห์) ของฟาโรห์แรเมซีสที่ 2 สลักเอาไว้ที่บริเวณทางเข้า ดังนั้นทีมนักโบราณคดีจึงเชื่อว่าอาคารแห่งนี้น่าจะเคยถูกใช้งานเป็นห้องรับรองของพระราชวังมาก่อน
โดยหลังจากที่พวกเขาทำการสำรวจพื้นที่รอบๆ เพิ่มเติม พวกเขาก็พบกับห้องโถงขนาดใหญ่อีกห้องหนึ่งซึ่งช่วยยืนยันเป็นอย่างดีว่าที่แห่งนี้น่าจะเป็นพระราชวังจริงๆ อย่างแน่นอน เพราะไม่เพียงแต่ห้องที่พบจะมีขนาดใหญ่เท่านั้น แต่มันยังมีอักษรฮีโรกริฟฟิคสลักไว้อีกมากพอสมควรเลย
อ้างอิงจากข้อมูลของนักโบราณคดีอาคารเหล่านี้ทำขึ้นจากอิฐโคลนและหินปูนเป็นหลัก โดยมีเศษเพดานบางส่วนที่สลักรูปดวงดาวเอาไว้พังลงมาอยู่ที่พื้นด้วย
จากฮีโรกริฟฟิคบางส่วนที่มีการค้นพบนักโบราณคดีก็คาดว่าเดิมทีแล้วพระราชวังแห่งนี้น่าจะเป็นสิ่งที่ถูกสร้างขึ้นมาเป็นอย่างแรก ก่อนฟาโรห์แรเมซีสที่ 2 จะมีการสั่งให้สร้างวิหารขนาดใหญ่ขึ้นมาใกล้ๆ พระราชวังอีกที ในช่วงเวลาต่อมา
รูปสลักของฟาโรห์แรเมซีสที่ 2 หนึ่งในผู้ปกครองที่ยิ่งใหญ่ที่สุดแห่งราชวงศ์ที่ 19
การค้นพบในครั้งนี้นับว่าเป็นหลักฐานอย่างดีที่บอกว่าเมืองโบราณอย่างอไบดอสนั้นในสมัยก่อนอาจจะมีความสำคัญมากกว่าที่คิด เพราะที่แห่งนี้ไม่เพียงแต่เป็นพื้นที่หลักทางศาสนาเท่านั้น (อ้างอิงจากวิหารในพื้นที่) แต่เมืองอไบดอสยังน่าจะเคยเป็นศูนย์กลางทางการเมืองและการบริหารประเทศด้วยนั่นเอง
ที่มา antiquities, inquisitr และ ancient-origins
Leave a Reply
You must be logged in to post a comment.