เชื่อว่าเพื่อนๆ คงจะเคยได้ยินสุภาษิต “ตักน้ำใส่กะโหลกชะโงกดูเงา” กันมาบ้าง นี่เป็นสุภาษิตจากสมัยโบราณที่หมายความว่า ให้รู้จักฐานะของตนและเจียมตัว แต่ในขณะเดียวกันมันก็แสดงให้เห็นถึงแนวคิดที่ว่าคนในสมัยก่อนเคยมีความคิดที่จะนำกะโหลกมาให้เป็นถ้วยหรือภาชนะได้เป็นอย่างดี
แถมแนวคิดเหล่านี้เองก็ยังไม่ได้มีอยู่แค่เพียงในไทย เสียด้วยเพราะในทางยุโรปเองเราก็เคยพบหลักฐานการใช้กะโหลกของศัตรูมาเป็นภาชนะใส่เครื่องดื่มกันมาอย่างยาวนาน และเป็นไปได้ว่ามนุษย์เราจะมีการใช้ “ถ้วยกะโหลก” เหล่านี้มาตั้งแต่ก่อนสมัยประวัติศาสตร์แล้วด้วย
ถ้วยกะโหลกที่เคยมีการถูกพบที่ถ้ำ Gough’s Cave ในอังกฤษ
ดังนั้นจึงไม่ใช่เรื่องแปลกที่ในตอนที่นักโบราณคดีทำการขุดค้นถ้ำโบราณ Cueva de El Toro ในทางตะวันตกเฉียงใต้ของประเทศสเปน พวกเขาจะพบว่าคนในยุคหินเองก็มีการใช้ “ถ้วยกะโหลก” กับเขาเช่นเดียวกัน
การค้นพบในครั้งนี้เกิดขึ้นจากความร่วมมือกันระหว่างทีมนักโบราณคดีจากมหาวิทยาลัย Durham มหาวิทยาลัย Cantabria และมหาวิทยาลัย La Laguna โดยพวกเขาได้มีการพบโครงกระดูกของผู้ใหญ่สี่คนและเด็กอีกสามคนที่อยู่ในสภาพที่มีร่องรอยการถูกตัดเฉือน และมีถ้วยที่ทำจากกะโหลก 4 อันอยู่ใกล้ๆ
ทีมนักโบราณคดีบอกว่า จริงอยู่ว่านี่ไม่ใช่การพบถ้วยกะโหลกครั้งแรกในประเทศสเปน แต่กะโหลกที่มีการค้นพบในครั้งนี้ก็นับว่ามีความประณีตในการทำเป็นอย่างมาก เมื่อเทียบกับถ้วยกะโหลกอื่นๆ ที่เคยมีการพบมา โดยหลังจากวัดอายุของกระดูกที่พบนักวิทยาศาสตร์ก็พบว่าถ้วยกะโหลกเหล่านี้น่าจะมีอายุได้มากที่สุดถึง 8,000 ปีเลย
จากการที่โครงกระดูกทั้ง 7 ร่างมีสภาพถูกตัดเฉือน นักโบราณคดีก็คาดว่าคนเหล่านี้น่าจะเป็นเหยื่อของการที่มนุษย์กินกันเอง หนึ่งในเหตุการณ์ที่มีการถกเถียงกันมาอย่างยาวนาน ทั้งเรื่องที่ว่าเกิดขึ้นอย่างแพร่หลายจริงๆ หรือไม่ และเกิดขึ้นเพราะอะไร
นั่นเพราะตั้งแต่ในอดีตแล้วเหล่านักโบราณคดีได้ถกเถียงกันเสมอว่าการที่คนกินคนด้วยกันเองในสมัยก่อนนั้นเกิดขึ้นจากอะไรกันแน่ ซึ่งแนวคิดที่เป็นไปได้ก็มีตั้งแต่การขาดอาหาร หรือการกินศัตรูด้วยความแค้นในสงคราม
อย่างไรก็ตามสำหรับการค้นพบในครั้งนี้ ทีมนักโบราณคดีได้ตั้งข้อสันนิษฐานว่า การกินคนที่เกิดขึ้นไม่น่าจะมาจากความอดอยากหรือสงคราม กลับกันมันน่าจะเป็นพิธีกรรมเกี่ยวกับความตาย คล้ายกับที่ชนพื้นเมืองในป่าอเมซอนบางเผ่ากินศพญาติที่ตายเพื่อจดจำพวกเขามากกว่า
เผ่าวารีหนึ่งในเผ่าที่มีการกินศพญาติที่ตายไป
แน่นอนว่าแนวคิดของเหล่านักโบราณคดีในครั้งนี้เองก็ใช่ว่าจะสมบูรณ์มีหลักฐานพร้อมเพรียงเช่นกัน ดังนั้นความจริงเกี่ยวกับถ้วยที่ทำจากกะโหลกมนุษย์เหล่านี้ จึงยังเป็นเรื่องที่เราต้องมีการศึกษาเพื่อหาความจริงกันต่อไป
ที่มา ancient-origins, forbes และ onlinelibrary
Leave a Reply
You must be logged in to post a comment.