ผลเอกซเรย์พบ มัมมี่ลึกลับจากเปรูเมื่อร้อยปีก่อน แท้จริงแล้วเป็นของวัยรุ่นที่ขาดแคลเซียม

ย้อนกลับไปเมื่อราวๆ 100 ปีก่อน ในช่วงปี 1923 พิพิธภัณฑ์ประวัติศาสตร์ธรรมชาติ Everhart ในรัฐเพนซิลเวเนีย สหรัฐอเมริกา ได้รับมัมมี่ร่างหนึ่งมาจากประเทศเปรู แต่ด้วยเทคโนโลยีที่ยังไม่ก้าวหน้าในเวลานั้น มัมมี่ร่างนี้จึงยังมีเรื่องราวมากมายที่ทางพิพิธภัณฑ์ไม่สามารถไขได้เลย

 

 

ในเวลานั้นพวกเขาเชื่อว่ามัมมี่ที่ได้มานั้นน่าจะเป็นของชายวัยกลางคนผู้อยู่ในวัฒนธรรมปาราคัส หนึ่งในวัฒนธรรมที่เก่าแก่ที่สุดของอเมริกาใต้ ซึ่งรุ่งเรืองมากๆ ในช่วง 800-100 ปีก่อนคริสตกาล

อย่างไรก็ตามเมื่อช่วงปลายเดือนมีนาคม ค.ศ. 2019 ที่ผ่านมา ในที่สุดนักวิทยาศาสตร์ก็ได้มีโอกาสตรวจสอบมัมมี่ในพิพิธภัณฑ์ Everhart ด้วยการเอกซเรย์จนได้

และก็เป็นในตอนนั้นเอง ที่พวกเขาพบว่า มัมมี่ที่ถูกเชื่อว่าเป็นชายวัยกลางคนมาตลอดนั้น จริงๆ แล้วเป็นของเด็กวัยรุ่นต่างหาก

อ้างอิงจากทีมนักวิทยาศาสตร์การตรวจสอบมัมมี่ด้วยการเอกซเรย์นั้นไม่ใช่เรื่องที่ทำได้ง่ายอย่างที่หลายๆ คนคิด เพราะการที่ต้องระวังไม่ให้มัมมี่เสียหาย ทำให้ในบางครั้งนักวิทยาศาสตร์ก็ต้องสแกนมัมมี่จากในตู้โชว์ (ซึ่งครั้งนี้ก็เป็นแบบนั้น) ทำให้ในหลายๆ ครั้งการตรวจสอบมัมมี่ก็จะใช้เวลานานกว่าที่ควรเป็น

 

 

นับว่าโชคดีที่นักวิทยาศาสตร์สามารถหามุมเอกซเรย์มัมมี่ร่างนี้อย่างสมบูรณ์จากในกล่องได้สำเร็จ ดังนั้นเราจึงได้รับข้อมูลที่น่าสนใจใหม่ๆ ที่ยังไม่เคยมีการระบุมาก่อนของมัมมี่ร่างนี้เป็นจำนวนมาก

โดยหนึ่งในข้อมูลที่น่าสนใจที่ได้จากการเอกซเรย์คือเด็กผู้กลายเป็นมัมมี่คนนี้น่าจะเคยเป็นโรคร้ายก่อนที่จะเสียชีวิตเนิ่งจากเด็กคนดังกล่าวมีปริมาณแคลเซียมในกระดูกสันหลังที่น้อยผิดปกติ

Dr. Scott Sauerwine หนึ่งในทีมวิจัยบอกว่า อาการแบบนี้ตามปกติแล้วจะเกิดขึ้นในคนอายุมาก แต่มัมมี่ที่พบนี้เสียชีวิตไปตั้งแต่ยังอายุได้แค่ช่วงวัยรุ่นเท่านั้น ดังนั้นจึงเป็นไปได้ว่าเขามีอาการของโรคเก๊าท์เทียม หรือไม่ก็โรคไฮโปพาราไทรอยด์ซึ่งเป็นภาวะการหลั่งสารเคมีบางตัวน้อยกว่าปกติ ส่งผลให้การดูดซึมแคลเซียมไปใช้ลดลง

 

 

นอกจากนี้นิ้วเท้าของมัมมี่ยังหายไปบางส่วนอีกด้วย ซึ่งนักวิทยาศาสตร์คาดว่าอาจจะเกี่ยวข้องกับการโดนตัดทิ้งเพราะน้ำแข็งกัดหรือติดเชื้อ แต่ก็ใช่ว่าจะไม่มีความเป็นไปได้ว่ากระดูกนิ้วเท้าเพิ่งจะมาหักไปหลังจากเด็กหนุ่มคนนี้ถูกทำเป็นมัมมี่เช่นกัน

น่าเสียดายที่การขาดแคลเซียมในกระดูก และการที่นิ้วเท้าหายไป ไม่อาจที่จะนำมาใช้ฟันธงได้ว่าเป็นเหตุผลที่ทำให้เด็กหนุ่มคนนี้เสียชีวิต แถมนอกจากร่องรอยที่กล่าวมาแล้วนักวิทยาศาสตร์ก็ไม่ได้พบร่องรอยอื่นๆ ที่น่าจะเกี่ยวข้องกับการเสียชีวิตของมัมมี่ร่างนี้เลย

ดังนั้นแม้ว่าเราจะไขปริศนาเรื่องอายุของมัมมี่ร่างนี้ได้แล้วก็ตาม แต่เรื่องราวส่วนมากของมัมมี่แห่งพิพิธภัณฑ์ Everhart ก็ยังคงเต็มไปด้วยปริศนาอยู่ดี

 

ที่มา livescience

Comments

Leave a Reply