ชาวเน็ต 65,000 คน ร่วมลงชื่อ ‘ถอดถอน’ Pewdie Pie ออกจากยูทูบ!!

กำลังมาแรงได้ที่เลยทีเดียวกับกระแสการ “รวบรวมรายชื่อ” เพื่อให้เกิดผลลัพธ์หรือถอดถอนอะไรบางอย่าง โดยล่าสุดยูทูบเบอร์ที่มีผู้ติดตามมากที่สุดในโลกอย่าง Pewdie Pie ก็โดนเช่นกัน

Pewdie Pie หรือ Felix Arvid Ilf Kjellberg ชาวสวีเดนวัย 29 ปีเป็นยูทูบเบอร์ที่มีชื่อเสียงจากการเล่นเกม และอัพโหลดคลิปวิดีโอลงยูทูบ

 

 

ใครจะคิดว่ามีการล่ารายชื่อเพื่อถอดถอน PewDiePie ออกจากเว็บไซต์ยูทูบ บน Change.org แบบจริงๆ จังๆ แล้วก็มีคนเข้าไปร่วมลงชื่อนับ 65,000 คนอีกด้วย

 

ผู้ร้องเรียนนามว่า Maria Ruiz ได้กล่าวถึงสาเหตุของการรวบรวมรายชื่อถอดถอนในครั้งนี้นั้นเป็นเพราะเขามีส่วนสนับสนุน

“การฟื้นฟูอำนาจของคนผิวขาวให้อยู่ในจุดสูงสุด” (Normalisation of White Supremacy)

เธอเขียนเอาไว้ว่า มันเกี่ยวข้องกับความเชื่อที่ว่าคนผิวขาวนั้นมีความสูงส่ง และเป็นเลิศกว่าคนผิวสีอื่น นั่นทำให้เกิดการต่อต้านคนผิวสี เพราะต้องการรักษาสิทธิ อำนาจ และความมั่งคั่งที่ตนเองมีในสังคม ส่งผลให้เกิดความไม่เท่าเทียมขึ้น

โดยย้อนไปถึงเหตุการณ์ในปี 2017 Felix ถูกกล่าวหาว่าเป็นพวกต่อต้านยิว หรือกลุ่มต่อต้านเซมิติค หลังจากที่เขาได้อัปโหลดวิดีโอลงยูทูบที่มีเนื้อหาเกี่ยวกับนาซี

และวิดีโอที่ถูกกล่าวถึงมากที่สุดนั่นคือวิดีโอที่ Felix จ้างชาวอินเดียเพื่ออ่านข้อความว่า “ความตายแก่ชาวยิวทุกคน” (Death to all Jews)

 

 

วิดีโอดังกล่าวได้รับเสียงวิพากษ์วิจารณ์มากมายจากชาวเน็ต และผู้ติดตามของเขาถึงประโยคที่ส่อไปทางเหยียดศาสนา อย่างไรก็ตาม Felix ได้ออกมาปฏิเสธว่าเขาไม่ได้เป็นพวกต่อต้านยิวแต่อย่างใด

เขากล่าวว่า “ผมขอพูดจากใจจริงว่าผมไม่ได้รู้สึกดี หรือภูมิใจไปกับวิดีโอเลย และผมก็ไม่ใช่พวกต่อต้านเซมิติคอะไรพวกนั้นด้วย ผมแค่คิดว่ามันตลกดี และไม่คิดว่ามันจะเป็นประเด็นขึ้นมาได้ ผมรักยิวนะ สาบานเลย”

 

ทั้งนี้ผู้ร้องเรียนได้โต้เถียงว่า “คลิปวิดีโอของเขาหลายๆ คลิปนั้นสามารถเห็นได้ชัดว่าเขาได้สนับสนุนและเป็นพันธมิตรต่อกลุ่มชาตินิยมผิวขาว (White Supremacist) และอุดมการณ์ของนาซี

และที่แย่ที่สุดคือช่องของเขานั้นมีผู้รับชมเป็นเด็กเยาวชนทั้งนั้น “

 

คลิปวิดีโอ Death To All Jews

 

อย่างไรก็ตาม แคทดั๊มบ์ลองวิเคราะห์เบื้องต้นคร่าวๆ ว่า หากจะเทียบระหว่างคนลงชื่อหลักหมื่น กับผู้ติดตามเกือบร้อยล้าน คงจะเป็นตัวเลขที่เทียบกันไม่ได้

และน่าจะไม่มีผลกระทบต่อชานแนลยูทูบของ PewDiePie แต่อย่างใด…

ที่มา: ladibible, @Vharixce


Tags:

Comments

Leave a Reply