Shamima Begum เด็กสาววัยรุ่นวัย 15 ปีลักลอบเดินทางจากบ้านในกรุงลอนดอน ประเทศอังกฤษไปยังประเทศซีเรีย เมื่อปี 2015 เพื่อไปเข้าร่วมกับกลุ่มก่อการร้าย ISIS และแต่งงานกับ Yago Riedijk หนึ่งในผู้ก่อการร้ายวัย 27 ปี
หลังจากนั้นเธอตั้งท้องและคลอดลูกชายออกมา ทางครอบครัวของเธอที่อยู่ที่อังกฤษได้ขอร้องให้ Begum กลับมาบ้าน และพร้อมจะเลี้ยงดูลูกของเธอ หากว่า Begum จะต้องถูกทางการอังกฤษดำเนินคดี ซึ่งในตอนนั้นก็มีการถกเถียงกันอย่างมากว่าสมควรให้เธอกลับเข้าสหราชอาณาจักรหรือไม่
โดยผู้คนส่วนหนึ่งเห็นว่า Begum ไม่ได้มีท่าทีสำนึกผิด และเธอก็บอกกับผู้สื่อข่าวว่าไม่เสียใจที่ไปซีเรีย ภายหลังจากนั้นเธอมีลูกรวมทั้งหมด 3 คน แต่ทั้งหมดก็เสียชีวิตลงไป โดยคนที่ 3 เพิ่งเสียชีวิตเมื่อเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา หลังจากเธอขอกลับบ้านที่อังกฤษเพราะห่วงลูกในท้อง
ในปีนี้ Begum ที่อายุ 19 ปีแล้วได้ขอร้องทางสหราชอาณาจักรให้โอกาสเธอได้กลับบ้านอีกครั้ง โดยอ้างว่าเธอถูกกลุ่มก่อการร้าย “ล้างสมอง” และเธอรู้สึกเสียใจต่อเรื่องที่ทำลงไปทั้งหมด
“หลังจากฉันหนีออกจากเมือง Baghuz (ที่มั่นสุดท้ายของ ISIS ตั้งอยู่ทางตะวันออกของประเทศซีเรีย) ฉันรู้สึกเสียใจต่อทุกอย่างที่ได้ทำไป ฉันอยากจะกลับสหราชอาณาจักร ขอโอกาสเริ่มต้นชีวิตใหม่อีกครั้ง
ฉันถูกล้างสมอง ฉันมาที่นี่เพราะเชื่อในทุกคำที่ถูกบอกมา ทั้งที่รู้ความจริงเกี่ยวกับศาสนาตัวเองน้อยมากๆ”
เธอเผยว่าช่วงที่เธอหนีออกจากอังกฤษนั้นเธอมีอารมณ์รุนแรงและซึมเศร้า เธอพยายามค้นหาจุดมุ่งหมายของชีวิตตัวเอง รู้สึกแปลกแยกจากคนในครอบครัว ทำให้ถูกครอบงำได้ง่าย และการที่เธอให้สัมภษณ์ไปว่าไม่เสียใจที่มาซีเรียนั้นเป็นเพราะกลัวว่าจะถูกทาง ISIS ทำร้าย
จากบทสัมภาษณ์เมื่อต้นปี ตอนที่เธอขอกลับบ้านรอบแรก เธอกล่าวว่า “ฉันอยากขอให้สหราชอาณาจักรยกโทษให้ฉัน ฉันไม่รู้จริงๆ ว่าจะต้องมาพบกับประสบการณ์แบบนี้ที่นี่”
ขณะนี้ทางทนายความของครอบครัว Begum กำลังหาทางพาตัวเธอกลับบ้าน ในขณะที่ Yago Riedijk สามีชาวเนเธอร์แลนด์ 1 ในนักรบ ISIS ถูกจับตัวเอาไว้ที่ศูนย์กักกันในซีเรีย เมื่อเขาถูกส่งตัวกลับประเทศจะต้องโทษจำคุก 6 ปี
Leave a Reply
You must be logged in to post a comment.